วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกอาชญากรรม“บิ๊กโจ๊ก” บินด่วน!! ช่วยสาวไทยเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์วางยาดูดเลือดและเตรียมตัดอวัยวะขาย

Related Posts

“บิ๊กโจ๊ก” บินด่วน!! ช่วยสาวไทยเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์วางยาดูดเลือดและเตรียมตัดอวัยวะขาย

สระแก้ว – “บิ๊กโจ๊ก” บินด่วนช่วยรับตัวสาวไทยเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ในกัมพูชา โดนวางยาดูดเลือดและเตรียมตัดอวัยวะขาย ส่งจดหมายฝากคนไทยในกัมพูชาขอความช่วยเหลือจากญาติ จนนำไปสู่การเข้าช่วยเหลือ เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว พร้อมเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมืองสีหนุวิวล์ รวม 8 คน

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 9 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อม นายมานะ สิมมา ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และคณะฯ ได้บินด่วนจากพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เพื่อมารับตัว 8 คนไทย แบ่งเป็น ชาย 1 คน หญิง 7 คน เหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเมืองสีหนุวิวล์ ประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกหลอกลวงบังคับให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์เพื่อหลอกลวงคนไทย โดยมี พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก, พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว และ ผบ.ร้อย ทพ.1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ร่วมรับตัวคนไทยกลับประเทศ จากเจ้าหน้าที่ ตม.กัมพูชา

ทั้งนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เข้าพูดคุยและสอบถามรายละเอียดจากเหยื่อหญิงสาวคนไทยรายหนึ่ง ชื่อว่า น.ส.บี นามสมมุติ อายุประมาณ 25 ปี เป็นคนกรุงเทพมหานคร ถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ลักลอบเข้าไปทำงานในประเทศกัมพูชากับแก๊งชาวจีนที่เมืองสีหนุวิวล์ เธอถูกบังคับให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงคนไทย จึงไม่ยอมทำ ทำให้แก๊งชาวจีนทำร้ายร่างกาย กักขังให้อดอาหาร และบังคับให้หาเงินมาไถ่ตัว แต่ไม่สามารถหาเงินมาได้ แก๊งชาวจีนได้ใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้ามาช๊อตจนเธอสามารถหลบหนีออกมาได้ ซึ่งระหว่างการเดินทางมาปอยเปตเพื่อกลับไทย ระหว่างทางรถที่จ้างมา มีการแวะระหว่างทางและรับผู้ชายคนหนึ่งขึ้นรถมา 1 คน และระหว่างทางคนขับรถ บอกว่า เหนื่อย ขับรถต่อไปไม่ไหว ขอแวะพักค้างคืนที่โรงแรมระหว่างทางมาปอยเปต จากนั้นเธอก็ไม่รู้สึกตัว ตื่นมาอีกทีอยู่สีหนุวิวล์และถูกเจาะเลือดไป 3 ถุง มีการเปลี่ยนโรงแรมหลาย ๆ โรงแรม และสุดท้ายถูกส่งมาถึงชายแดนเวียดนาม

เหยื่อรายนี้ เล่าด้วยว่า ระหว่างเดินทางเธอกระหายน้ำ จึงขอแวะซื้อน้ำแล้วเจอผู้หญิงไทย จึงเขียนข้อความขอความช่วยเหลือใส่กระดาษ จนกระทั่งหญิงไทยได้ประสานเจ้าหน้าที่แกะรอยตามสัญญาณมือถือและช่วยเหลือออกมาได้สำเร็จ โดยหลังจากนั้นถูกดูดเลือดไปอีก 1 ครั้ง และถูกเครื่องช๊อตไฟฟ้าจนสลบ เตรียมจะเอาตัวไปตัดเอาอวัยวะ แต่ได้รับการช่วยเหลือมาเสียก่อน จนถูกส่งไปรักษา ให้เลือด และพักฟื้นที่โรงพยาบาลฝั่งปอยเปต จนร่างกายแข็งแรงดีขึ้น จึงถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทย พร้อมกับเหยื่อค้ามนุษย์ รวม 8 คน หลังเริ่มมีอาการดีมากขึ้นแล้ว

“เดินทางไปกัมพูชาได้ 2 เดือนกว่า โดยช่วงที่ถูกนำตัวไปนั้น ในห้องมีมีดหมอสำหรับผ่าตัด เตรียมไว้ โดยเลือดที่นำไปมีลักษณะเป็นถุงไม่เหมือนของ รพ.ซึ่งไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร ขายหรือเปล่า ซึ่งไม่แน่ใจว่าเพื่อนที่อยู่ในพื้นที่นั้นโดนเหมือนกันหรือไม่ แต่ตอนขึ้นตึกไปได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ที่ได้ยินเสียงร้อง แต่ไม่เห็นตัว ซึ่งตึกนั้นอยู่ที่เมืองสีหนุวิวล์ ซึ่งตอนอยู่ที่นั่นก็เคยโดนไฟช๊อตคอด้วย เวลาที่ไม่ยอม เพื่อให้หมดสติ” เหยื่อถูกดูดเลือด ระบุ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังเผยอีกว่า จากการตรวจสอบจากกลุ่มไลน์ของแก๊งชาวจีน พบว่า จะมีการระบุเหยื่อคนที่ถูกนำตัวมาเพื่อเอาเลือดและอวัยวะว่า เป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม หมายความว่า ดูดเลือดจนใกล้จะหมดตัว หลังจากนั้นเหยื่อให้การว่า มีมีดผ่าตัดอยู่ด้วย จากข้อมูลพบว่า เมื่อดูดเลือดจนไม่สามารถให้เลือดต่อได้แล้ว ก็จะถูกนำไปผ่าตัดเอาอวัยวะไปขาย ทั้งตา ทั้งกระจกตา ตับไตต่าง ๆ ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหาคือ สถานการณ์ขณะนี้เราเห็นว่า มันรุนแรงขึ้น จากแต่เดิมหลอกลวงเหยื่อไปบังคับทำงาน จนมาถึงต้องการนำอวัยวะของหญิงสาวชาวไทยคนนี้ไปขาย หลังจากที่ดูดเลือดจนหมดตัวจนเสียชีวิต ซึ่งถือว่าโหดเหี้ยมมาก จึงฝากเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปทำงานออนไลน์ในประเทศกัมพูชา ต้องตรวจสอบให้ดีและไม่ควรเดินทางไปอย่างผิดกฎหมายด้วย

“ขณะนี้ยังมีคนไทยที่ลักลอบทำงานในประเทศกัมพูชาอย่างผิดกฎหมายมีประมาณเกือบ 3,000 คน ร้อยละ 90 อยู่อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งอีก 2 สัปดาห์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา จะประสานความร่วมมือตามที่ พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้หารือกับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาไว้ เพื่อกวาดล้างผลักดันคนไทยที่ลักลอบไปทำงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชาให้หมดโดยเร็ว เพื่อตัดวงจรไม่ให้ตกไปเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งค้ามนุษย์ชาวจีนได้อีกต่อไป ซึ่งเหล่านี้เป็นฐานความผิดของการค้ามนุษย์ทั้งสิ้น การเอาคนไปบังคับทำงานแสวงหาประโยชน์ เอาคนไปบังคับตัดอวัยวะขาย เพื่อแสวงหาประโยชน์ เหล่านี้ชัดเจน เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ทั้งสิ้น แต่เมื่อเราไปดำเนินการครบแล้ว ผลประโยชน์ทางอ้อมที่จะได้รับคือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์หมด เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะทำงานได้หลอกคนไทยได้ต้องใช้คนไทย ถ้าไม่มีคนไทยอยู่ในกัมพูชาแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็หลอกคนไทยในประเทศไทยไม่ได้ สายทุกสายที่เข้ามาเป็นคนไทยหมด”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังรับตัวคนไทยทั้ง 8 คน เดินทางข้ามแดนเข้ามายังประเทศไทย จากนั้น พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้นำตัวคนไทยทั้ง 8 คน ส่วนให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ อ.อรัญประเทศ ฯ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ก่อนส่งไปกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิดฯ ในสถานที่กักตัวที่ทางจังหวัดสระแก้ว ได้จัดเตรียมไว้รองรับกรณีดังกล่าวต่อไป…

นายยุทธนา พึ่งน้อย / ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว ; รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts