เวลา 13.00 น. วันที่ 14 พ.ย.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารมาเปิดเผยต่อสื่อ โดยมีหมายจับ 4 หมาย และอีก 1 หมายค้น ที่มีการแยกคดีทำหมูเถื่อนจากเดิม 1 คดีเป็น 9 คดี และโอนทั้ง 9 คดีไปให้กองภาษีดำเนินการสอบสวน จึงทำให้ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนทำคดีหมูเถื่อนนี้ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ และทำให้พนักงานสอบสวนชุดเดิมมีอำนาจในการทำคดีได้เพียงคดีเดียว จึงทำให้การเข้าค้นบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายหนึ่ง ย่าน วังน้อย จ.อยุธยา ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะหมดอำนาจ ซึ่งเป็นผลมาจากการสั่งการโอนย้ายคดีดังกล่าว
ส่วนอีก 9 คดีใหม่ต้องรอการแต่งตั้งพนักงานสอบสวนเข้ามาทำคดีแทน ทำให้นายอัจฉริยะ หวั่นอาจทำให้คดีล่าช้า และทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือได้รับประโยชน์ ทำการโยกย้ายของกลาง และหวั่นว่าพนักงานสอบสวนชุดใหม่ จะเอื้อประโยชน์ ให้กับนายทุนผู้นำเข้าหมูเถื่อน
นายอัจฉริยะยะ เปิดเผยอีกว่า ตัวกลางนำเข้าหมูเถื่อนคือกลุ่มการเมือง ซึ่งมีลูกชายของนักการเมืองในสังกัดพรรครัฐบาลเป็นตัวกลางใหญ่ มีการนำเข้าหมูเถื่อนกว่า 1 แสนตัว โดยมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์เห็นชอบด้วย
โดยนายอัจฉริยะ นำเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินของบริษัทนำเข้าบริษัทชิปปิ้งเจ้าหนึ่ง และเอกสารการจ่ายสินบน ที่มีชื่อเจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่ง ชื่อว่า ”หมออ๊อด“ โดยหมอออ๊อด เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมปศุสัตว์ ซึ่งในเอกสารการจ่ายสินบนนั้น จ่ายให้หมออ๊อดในราคา 30,000 บาท ต่อตู้ และมีเงินสินบทให้เจ้าหน้าที่รัฐ ตู้ละ 10,000 บาท เป็นเงินสินบนที่ให้กับนายด่านกักกันสัตว์ จ.ชลบุรี ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีตู้คอนเทนเนอร์นำเข้าหมูเถื่อนมากกว่า 3,000 ตู้ ซึ่งจากการประเมินยอดการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ พบว่า อาจมีตัวเลขสูงถึง 900 ล้านบาทต่อปี
นายอัจฉริยะ ยังฝากถึง เจ้าสัวค้าปลีกรายใหญ่เบอร์ 1 ของประเทศไทย ว่าทำไมถึงต้องซื้อตับหมู และหมูสามชั้น จากบริษัทนำเข้าจากประเทศเยอรมนี จากบริษัทชิปปิ้ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวถูก DSI ออกหมายจับ ซึ่งเจ้าของบริษัทที่เป็น 2 พ่อลูกกำลังจะเข้ามอบตัวกับ DSI ในวันนี้ นอกจากนี้เจ้าสัวรู้หรือไม่ว่าบริษัทดังกล่าวถูก DSI ออกหมายจับแต่ก็ยังไปอุดหนุน ทั้งที่บริษัทในเครือเจ้าสัวมีศักยภาพมากพอที่จะผลิตหมู ป้อนไปยังตลาดผู้บริโภยภายในประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสินค้านำเข้า
นายอัจฉริยะ ยังเปิดเผยอีกว่า ยังมีข้าราชการตงฉินน้ำดีอยู่ในกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์อีกมาก ซึ่งตนเองก็ได้ข้อมูลมาจากข้าราชการน้ำดีกลุ่มดี รวมไปถึงเกษตรผู้เลี้ยงหมู ที่ส่งข้อมูลให้ตนเองอีกมาก