เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก.จ่าคิงส์ สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พานายหม่อง อายุ 54 ปี และ นางอุทัย อายุ 76 ปี ผู้เสียหายสองแม่ลูก เดินทางมาร้องทุกข์ยังกองยังคับการปราบปราม หลังถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจยศ “ร้อยตํารวจตรี” สภ.นครชัยศรี บุกรุกที่ดินและทําลายทรัพย์สิน
โดยนายหม่อง กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของแม่ที่ได้รับสืบทอดต่อๆกันมากว่าหลายร้อยปี ซึ่งตนอาศัยอยู่กับลูกสาว ส่วนแม่จะอาศัยอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ในตําบลเดียวกัน โดยเหตุเกิดจากตํารวจนายนี้ได้ทําการซื้อที่ดิน ซึ่งติดอยู่กับที่ดินของตนเองและเขาได้ทําการถมที่ปิดล้อมรั้วกัน จึงแจ้งไปว่าให้ดําเนินการวัดที่ดินเสียก่อนเพราะรุกลํ้าเข้ามาในที่ดินของตน แต่เขาไม่สนใจและขู่จะดําเนินคดีอ้างว่าตนย้าย “เสาหมุดที่ดิน” แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ย้าย
หลังจากนั้นจึงไปแจ้งความยัง สภ.นครชัยศรี ในข้อหาบุกรุกและทําลายทรัพย์สิน แต่ตํารวจไม่รับแจ้งความให้ลงบันทึกประจําวันเท่านั้น ตนจึงเกรงว่าคู่กรณีซึ่งเป็นนายตํารวจอาจจะมีอิทธิพล ในพื้นที่จึงย้ายมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านแม่
ขณะที่นางอุทัย กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของตน ซึ่งได้รับตกทอดมาจากบรรพบุรุษไม่ตํ่ากว่าร้อยปี โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมากและตนกลัวว่าลูกชายจะถูกทําร้าย จึงอยากขอให้ทางตํารวจกองบังคับการปราบปรามช่วยเหลือ
ด้านนายธมนันท์ หรือ จ่าคิงส์ กล่าวว่า เบื้องต้น
จะแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเพื่อดําเนินคดีนายตํารวจดังกล่าวในข้อหาบุกรุกและทําลายทรัพย์สิน พร้อมกับขอคุ้มครองพยานเนื่องจากผู้เสียหายเกรงจะได้รับอันตราย และฝากถึงผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครปฐมให้ดําเนินการตรวจสอบว่ามีการกระทําผิดจริงหรือไม่ หากผิดต้องลงโทษทางวินัยและดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ตรวจสอบหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมาก่อนหาทางช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป