เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. นายคมเพชร ไชยสุริย์ อายุ 44 ปี แอดมินกลุ่มพลังเงียบแห่งประเทศไทย และ นายธีรพนธ์ เกษจันทร์ อายุ 47 ปี แอดมินเป้ กลุ่ม FC แม่น้องชมพู เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง พรสถิตย์ บุราญรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.แจ้งความกรณีถูกคนร้ายนำรูปไปสร้างเฟซบุ๊กปลอมแล้วไปโพสต์ด่าคนอีสานและคนภูเก็ต
นายคมเพชร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา มีเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ส่งรูปภาพหญิง 2 คนแต่งกายใส่ยกทรงสีดำพร้อมข้อความที่โพสต์ด่าคนอีสานด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยใช้รูปภาพของตนเป็นภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ “ทรชน คนปล้นลาบ”
อีกโพสต์บอกให้คนอีสานเลิกทวงบุญคุณเรื่องข้าวไม่ได้ขอฟรี
อีกโพสต์เป็นรูปภาพปลา มีข้อความว่า”คนภูเก็ตกินปลาแซลมอนทุกวันพวกผมถึงได้ฉลาดไม่เหมือนคนอีสานกินปลาร้าถึงได้ไม่ฉลาดกับเค้าสักที”
อีกโพสต์เป็นรูปภาพของตน มีข้อความว่า “ผมสงสารหมอที่เกาหลีต้องมานั่งเสียเวลาคิดค้นวิธีการเสริมดั้งเพื่อแก้ปัญหาระบบทางเดินหายใจของคนอีสานจริงๆ ปล่อยให้ดั่งจมไปกับธรณีบนใบหน้าก็สิ้นเรื่อง”
และเฟซบุ๊กอีกบัญชีชื่อ “พลังประชารัฐ” โพสต์ข้อความถากถางรัฐบาลว่า”น้ำมันยุคทักสิน ลิตรละร้อยกว่าบาท ยุคลุงตู่ลิตรละ 30-40 บาท”
นายคมเพชร กล่าวว่าหลังจากนั้น พบว่ามีคนไม่รู้จักขับขี่รถจักรยานยนต์มาป่วนเปี้ยนแถวบ้านพักในจังหวัดมุกดาหารหลายครั้ง เกรงว่าจะมีคนเข้าใจตนผิดๆ และเกลียดชังตนจากโพสต์เฟซบุ๊กปลอมดังกล่าว จนอาจจะมาดักทำร้ายได้ จึงไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมคำสร้อย ไว้เมื่อ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
ปกติตนจะไม่เปิดเผยตัวตนเพราะการเป็นแอดมินเพจพลังเงียบแห่งประเทศไทย และกำลังจะลงสมัครสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่ อาจเป็นสาเหตุให้มีคนไม่พอใจจึงทำการปลอมเฟซบุ๊กสร้างโพสต์ด่าคนอีสานให้ตนเกลียดชังตนขึ้นมาสร้างความเข้าใจผิด ตนเองก็เป็นคนอีสานย่อมเข้าใจคนอีสาน ซึ่งในคลับเฮ้าส์ Toxic ด่าคนอีสานเมื่อปีกลายนี้มีแต่คนไม่พอใจทั่วประเทศ
เป้ ธีรพนธ์ แอดมินเพจ”FCแม่น้องชมพู”เพื่อนที่มาด้วย กล่าวฝากถึงคนเล่นโซเชียลฯ ว่า เมื่ออ่านหรือเห็นโพสต์อะไรก็อย่ารีบร้อนไปสรุปตามนั้น ขอให้ตรวจสอบก่อนว่าเป็นตัวเขาโพสต์จริงหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแล้วไปเชื่อก็อาจจะเกิดเรื่องใหญ่โตตามมาได้ ตนเห็นมาหลายกรณีเช่นในคดีน้องชมพู จะเป็นเรื่องของอารมณ์คนอ่อนไหว ขอให้เสพข่าวอย่างมีสติ ไม่ใช่เห็นแล้วเชื่อว่าเป็นเขาคนนี้แน่นอนรีบแชร์ต่อทันที
ร.ต.อ.หญิง พรสถิตย์ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบัญชีดังกล่าวเปิดใช้งานแล้ว ก่อนจะแนะนำผู้เสียหาย หากจะต้องการให้ตำรวจช่วยตรวจสอบขอให้เข้าไปลงแจ้งความคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทาง www.thaipoliceonline.com ผ่านทางคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และทางโทรศัพท์ผ่าน Call center หมายเลข 1441 หรือ โทร 081 -866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้เสียหายยังไม่ต้องมาพบพนักงานสอบสวน หลังกรอกข้อมูลแล้ว รอแอดมินติดต่อกลับมาให้ผู้แจ้งไปพบพนักงานสอบสวนที่จะรับผิดชอบคดีนั้น
พนักงานสอบสวนจะทำการโทรนัดหมายผู้แจ้ง หรือผู้เสียหายมาสอบปากคำ และจะรายงานความคืบหน้าคดีในระบบออนไลน์ โดยผู้เสียหายสามารถติดตามความคืบหน้า ส่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามปัญหาผ่านระบบได้ตลอดเวลา
แต่ทั้งนี้ประชาชนก็ยังสามารถไปแจ้งความโดยตรงได้ทุกสถานีตำรวจที่สะดวก แม้สถานีนั้นจะไม่มีอำนาจการสอบสวน ก็จะส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่มีอำนาจการสอบสวนต่อไป
ส่วนกรณีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยเกรงจะถูกทำร้ายนั้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายติดตั้งกล้องวงจรปิดจะได้ภาพเป็นหลักฐานนำไปให้ตำรวจท้องที่ตรวจสอบต่อไป