เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ธค.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พาครอบครัว พร้อมนายณัฐปกรณ์ สุดชา ทนายความ ของครอบครัวผู้เสียหาย 4 คนประกอบด้วย 1.นางสนุก มุกสิกบุญเลิศ แม่อายุ 78 ปี 2.นายสุทัศ อายุ 64 ปี 3.นายภษพล อายุ 54 ปี 4.นางสุธิศา อายุ 51 ปี เข้าร้องทุกข์ ขอความเป็นธรรมกับกองปราบปราม บก.ป.
กรณีโดนอดีตนายทหารระดับนายพลให้ลูกน้อง มาหลอกชื้อที่ดินในจังหวัดอุดรธานี จากนายสิทิน มุสิกบุญเลิศ ผู้เป็นพ่อ อายุ76 ปีที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2554
โดยเมื่อปี พ ศ 2534 นายสุทิน บิดา ได้ถูกลูกน้องอดีตนายทหารเกษียณไปแล้วมาทำทีขอซื้อที่ดิน จำนวน 49 ไร่ ของครอบครัวเพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์
โดยที่แม่ไม่ได้ยินยอมไม่รู้เรื่องเพราะพ่อโดนหลอกให้เซ็นชื่อคนเดียวกับทางกรมที่ดิน จว.อุดรธานี โดยมีหลักฐานใบเสร็จรับเงินไว้เพียง 5 หมื่นบาท
เมื่อครอบครัวทราบเรื่องจึงได้มีการทวงถามเรื่องดังกล่าวแต่กลับมีการข่มขู่จากลูกน้องอดีตนายทหารมาตลอดใช้ปืนอาก้ายิงที่ทำงานของนางสุธิศา ในพื้นที่ จว.อุดรธานี ทำให้ครอบครัวเกิดความหวดกลัวไม่ปลอดภัย จึงไม่ได้นำเรื่องฟ้องร้อง
จนกระทั่งเมื่อปี 2565 จึงได้มีการฟ้องร้องกับทางบริษัทผลิตอาหารสัตว์ชื่อดัง ถึงเรื่องการซื้อขายที่ดินไม่ถูกต้องกันขึ้น หลังจากที่ อดีตนายทหารเกษียณราชการไป
ต่อมาจึงได้นำเรื่องนี้ขอความช่วยเหลือ จ่าคิง โดยทางคุณพ่อได้รับเงินค่าที่มาเพียง 5 หมื่นบาท เท่านั้นแต่ไม่ได้มาให้กับทางครอบครัว
สำหรับคดีนี้ทางครอบครัวได้ไปฟ้องศาลเยาวชนและ ครอบครัวกลาง เพื่อพิสูจน์ว่าที่ดินนี้ผืนนี้เป็นสินสมรส ได้มาระหว่างการแต่งงานกับ แต่ผู้เป็นพ่อแอบเอาไปขายโดยที่แม่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเจรจาไกบ่เกลี่ยกันอยู่
ด้านจ่าคิงส์ เผยเกรงว่าอดีตนายพลนอกราชการรายนี้จะใช้อิทธิพลข่มขู่ครอบครัวนี้เหมือนเมื่อสามสิบปีก่อน จึงต้องพามาร้องกองปราบให้รับทราบหาเกิดอันตรายหรือข่มขู่ครอบครัวนี้เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากปัญกาเรื่องที่ดินผืนนี้แน่นอน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและดำเนินการตามที่ผู้เสียหายประสงค์ต่อไป