วันเสาร์, กันยายน 21, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 2 ผัวเมียแสบ ต้มตุ๋นทางออนไลน์ เสียหายมากกว่า 10 ล้าน ตรวจพบเมียมีหมายจับติดตัวกว่า 7 คดี

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 2 ผัวเมียแสบ ต้มตุ๋นทางออนไลน์ เสียหายมากกว่า 10 ล้าน ตรวจพบเมียมีหมายจับติดตัวกว่า 7 คดี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบกป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.อภิมันฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.วัตรสัณห์ เนตรหาญ รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ท.วิทยา สุทธิปัญโญ รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ท.สุรศักดิ์ บุญเพ็ง รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ต.ชโยธรณ์ ทองนาค รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ต.มนตรี โสภัย รอง สว.กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม
1.นายภาณุพงษ์ฯ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ จ 288/2566 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
2.น.ส.กุศญาฯ อายุ 36 ปี มีหมายจับจำนวน 7 หมาย
2.1. หมายจับศาลอาญา ที่ 270/2566 ลง 24 มกราคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
2.2. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ จ286/2566 ลง 8 ธันวาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
2.3. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 124/2565 ลง 10 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง ความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์”
2.4. ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 130/2566 ลง 14 มิถุนายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์”
2.5. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 604/2564 ลง 24 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง และโดยทุจริตนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
2.6. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงระยอง ที่ 134/2563 ลง 26 มิถุนายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
2.7. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 258/2563 ลง 13 สิงหาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการใช้หรืออ้างเอกสารปลอม, ปลอมเอกสาร ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอมหรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง และฉ้อโกง”

สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 22 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2564 นายภาณุพงษ์ฯ กับ น.ส.กุศญาฯ และพวกได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย ให้ร่วมลงทุนผลิตกาแฟเพื่อนำไปจำหน่ายทางออนไลน์และขายส่งให้กับบริษัทห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในประเทศ จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปร่วมลงทุน จำนวนกว่า 3 ล้านบาท

ต่อมาพบว่า น.ส.กุศญาฯ ได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว เมื่อมีการทวงถามขอเงินคืนก็บ่ายเบี่ยง ไม่ได้รับเงินคืนผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสืบสวนพบว่าน.ส.กุศญาฯ กับพวก ได้มีการหลอกขายสินค้าทางออนไลน์อีกจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท โดยมีผู้เสียหายจำนวน 20 – 30 คน ซึ่งจะหลอกขายหน้ากากอนามัย, เครื่องสำอาง, เครื่องทำความสะอาดหน้า, อุปกรณ์ชงกาแฟ และอีกหลายอย่าง โดยใช้เทคนิคสร้างบัญชีปลอมขายของเมื่อได้เงินก็จะปิดบัญชีหลบหนีไป นอกจากนี้พบว่า น.ส.กุศญาฯ มีหมายจับจับติดตัวจำนวน 8 หมาย และนายภาณุพงษ์ฯ จำนวน 1 หมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 22 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงนำกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว

จากนั้นนำตัว น.ส.กุศญาฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. และนำตัว นายภาณุพงษ์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูเพียง จ.น่าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เตือนภัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชน รวมถึงลูกหลาน ผู้สูงอายุ ที่คิดจะซื้อของออนไลน์ ให้ใช้สติและตรวจสอบที่มาความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์, ผู้ขายรวมทั้งบัญชีธนาคารที่โอนไปให้แน่ชัด ควรซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์มกลาง หรือเว็บไซต์ร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนซื้อ และควรอ่านรีวิวให้เยอะก่อนซื้อ รวมทั้งเช็กข้อมูลจากเว็บไซต์ตรวจสอบการฉ้อโกงออนไลน์ หากบัตรประชาชน, บัญชีธนาคาร, ชื่อเพจ, หรือชื่อไลน์ไม่ตรงกัน อย่าโอนเงิ โดยเฉพาะการลงทุนทางช่องออนไลน์ที่มีมูลค่าการลงทุนสูง ควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะมีการลงทุน ให้แน่ใจว่าเป็นบริษัทที่มีตัวตน ไม่มีเจตนาหลอกลวง ไม่ฝากและไม่โอนเงินลงทุนเข้าบัญชีส่วนตัวของบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะคนที่มาชักชวนลงทุน หรืออ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัท

จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. โทร.085-4294250

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts