เปิดปฏิบัติการพิทักษ์เมืองย่าโม ปฏิบัติการตัดหวาย กระหึ่มเมืองโคราช ! สนั่นเมืองกาญจน์ !

เมื่อตำรวจอ่อนแอ “ต่อการจับการพนัน”
จับบ่อนกระหึ่มเมือง “2 จังหวัด”
มหาดไทยจึง “นำลุยปราบเอง”

“… หากตำรวจอ่อนแอต่อการปราบสถานบันเทิงผิดกฏหมาย บ่อนการพนัน และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงบางส่วนเข้าไปมีส่วนพัวพัน เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับกลุ่มธุรกิจสีเทา จนเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง จะแก้ปัญหาอย่างไร?

หรือจะนิ่งเฉย ปล่อยให้ปัญหาเป็นขยะซุกใต้พรม เหมือนเฉกเช่นที่ผ่านมา จะจับหรือปราบเฉพาะโจรพลเรือน ส่วนโจรมีสี โจรในเครื่องแบบช่างมัน .. เพราะคนเดือดร้อนคือสังคมไทย คือประชาชน ไม่ใช่คนระดับสูง คนรวย คนมีบารมี พวกนักการเมืองอย่างพวกท่าน…”

ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีที่มีการจับกุมแก๊งนายตำรวจระดับสูงหลายครั้ง ที่เข้าไปมีส่วนพัวพันกับการพนันอ่อนไลน์ โดยเฉพาะเมื่อครั้งล่าสุด ต่อกรณีบุกเข้าจับกุมนายตำรวจระดับสูงจำนวนหลายราย ภายในที่พักของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ใกล้ชิดและทำงานให้กับนายตำรวจท่านนี้ จนไปถึงการอุ้มรีดไถเจ้ามือการพนันออนไลน์ด้วยเงินจำนวน 140 ล้านบาท จนมีวลีฮิตที่เรียกขานกันทั่วไปว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่เป้เขียนมา” และทุกวันนี้ยังไม่เห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติในยุคของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีวิธีการใด กับนโยบายการปราบบ่อนการพนัน และการพนันออนไลน์ ออกมาดำเนินการอย่างได้ผล

หากแต่เป็น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับมีความมุ่งมั้น ใช้ทีมของกรมการปกครองเข้าดำเนินการเรื่องนี้ ปราบปรามสถานบันเทิง อบายมุขผิดกฏหมาย และบ่อนการพนันอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่หน้าที่หลักต่อการทำงานในเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีกำลังพลกว่า 200,000 นาย ภายใต้การบังคับบัญชา กลับไร้มาตรการต่อการปราบให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม

ดังนั้นกระทรวงมหาดไทย จึงได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พากันแจ้งเบาะแส แจ้งข่าวสารไปยังกระทรวงมหาดไทย แทนที่จะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมีความเชื่อมั่นในการปราบปรามสถานบันเทิง อบายมุขที่ผิดกฏหมาย บ่อนการพนัน ที่ทำลายสังคม ทำลายอนาคตลูกหลานอยู่ทุกวัน

ล่าสุด กระทรวงมหาดไทยได้เปิดปฏิบัติการ ปราบบ่อนการพนัน 2 แห่ง 2 จังหวัด เรียกว่า “ปฏิบัติการพิทักษ์เมืองย่าโม ปฏิบัติการตัดหวาย กระหึ่มเมืองโคราช ! สนั่นเมืองกาญจน์ !
เมื่อกรมการปกครองส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ บุกทลายบ่อนใหญ่ 2 จังหวัดพร้อมกัน ทั้งนครราชสีมา และกาญจนบุรี หลังประชาชนร้องศูนย์ดำรงธรรม เพราะครอบครัวติดพนันงอมแงมจนเป็นหนี้นอกระบบ เอาจริง ปราบบ่อนการพนัน หนี้นอกระบบ ลุยปราบปรามผู้มีอิทธิพล จัดระเบียบสังคม

โดย วันที่ 22 ธันวาคม 2566 เวลา 16.00 นาฬิกา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง

ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัด และตำรวจภูธรจังหวัด เปิดปฏิบัติการตรวจค้น จับกุมบ่อนการพนันพร้อมกัน 2 แห่ง โดยสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 40 นาย นำกำลังเข้าจับกุมบ่อนการพนันพร้อมกัน 2 แห่ง ดังนี้

🚨จุดที่ 1 ใจกลางเมืองนครราชสีมา กลางแหล่งชุมชน เป็นบ่อนการพนันที่ตั้งอยู่ริมถนนศรีเพชร ต.หมื่นไวย อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เป็นอาคารชั้นเดียวที่บังตาเจ้าหน้าที่ด้วยตาข่ายบังแดดสีดำ เพื่ออำพรางไม่ให้มองเห็นทางเข้าบ่อนจากภายนอก ด้านในตัวอาคารเป็นห้องปิดทึบ มีการ์ดรักษาความปลอดภัย ด้านในห้องแอบแฝงให้เล่นการพนันประเภท ไฮโล เสือ มังกร จำนวนหลายโต๊ะ และมีการเล่นพนันออนไลน์ด้วย มีนักพนันจำนวนมากถึง 200 คน ต่อวัน เปิดให้เล่นได้ 24 ชั่วโมง กาแฟ เครื่องดื่มมีบริการฟรี เงินหมุนเวียนภายในไม่ต่ำกว่าล้าน ต่อวัน

🚩 โดยจุดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อม พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามข้อร้องเรียนด้วยตนเอง

พบอาคารพื้นที่ดังกล่าว มีร่องรอยการเล่นพนัน พบทั้งอุปกรณ์การเล่นพนัน และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักพนันจำนวนมาก ซึ่งขณะเข้าตรวจค้นภายในห้องที่จัดให้เล่นพนัน พบผู้ดูแลบ่อน ซึ่งยอมรับว่าสถานที่แห่งนี้ มีการเปิดให้เล่นการพนันจริง เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้เชิญตัวผู้ดูแลบ่อนดังกล่าวไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ยังพบชายชาวต่างด้าวชาวกัมพูชา ยอมรับว่าเป็นลูกจ้างของบ่อน เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาตทำงานอีก 4 คน จึงได้แจ้งควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งจากนี้ไปทาง เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ จะร่วมกันตรวจตราเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกลับมาเปิดบ่อนในพื้นที่อีก

🚨จุดที่ 2 บ่อนหวายเหนียว

เป็นพื้นที่ของตลาดหวายเหนียวเก่าซึ่งอยู่ใน ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง อยู่ภายในโรงสีข้าวขนาดใหญ่ โดยนำอาคารเก่าของโรงสีข้าวมาดัดแปลงเป็นอาคารที่ให้เล่นการพนัน ลักษณะเป็นบ่อนเปิด ไม่มีประตู เปิด ปิด แต่มีรั้วรอบขอบชิด โดยใช้ต้นไม้และสแลนสีดำล้อมรอบพื้นที่ ขนาดพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ บ่อนแห่งนี้จะเปิดให้เล่นการพนันประเภท ถั่ว หรือ กำถั่ว โดยดัดแปลงเอาอุปกรณ์ไฮโลมาแทนการใช้ถั่วแบบเดิม เงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าล้านต่อวันเช่นกัน

✅ ภายหลังการเข้าตรวจค้น จับกุม จุดที่จังหวัดกาญจนบุรี

• พบนักพนันและเจ้ามือ จำนวนรวม 90 คน
• เงินสดและชิปสำหรับการเล่นพนัน รวม หลายล้านบาท
• ตรวจพบ อาวุธปืน และเงินสดจำนวนมาก ภายในรถของนักพนันที่จอดอยู่ภายในบ่อน

♦️ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอ ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนัน และส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ดำเนินคดีต่อไป

❇️ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในสังคมที่สงบสุข สามารถประกอบสัมมาอาชีพได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากต้องการผ่อนคลายยังมีสถานที่ถูกกฎหมายให้ผ่อนคลายได้ซึ่งไม่ใช่บ่อนการพนัน

และ “ขอเน้นย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมาย การปราบปรามบ่อนการพนัน ขอให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า กระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชน มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า หากตำรวจอ่อนแอต่อการปราบสถานบันเทิงผิดกฏหมาย บ่อนการพนัน และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงบางส่วนเข้าไปมีส่วนพัวพัน เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับกลุ่มธุรกิจสีเทา จนเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง จะแก้ปัญหาอย่างไร?

หรือจะนิ่งเฉย ปล่อยให้ปัญหาเป็นขยะซุกใต้พรม เหมือนเฉกเช่นที่ผ่านมา จะจับหรือปราบเฉพาะโจรพลเรือน ส่วนโจรมีสี โจรในเครื่องแบบช่างมัน .. เพราะคนเดือดร้อนคือสังคมไทย คือประชาชน ไม่ใช่คนระดับสูง คนรวย คนมีบารมี อย่างนักการเมืองพวกท่าน!!!