จากกรณี เมื่อวันที่ 1 ม.ค.67 เวลาประมาณ 04.45 น. ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์อุปกรณ์หัวลากไฟฟ้าสำหรับรถเข็นวีลแชร์ ของ น.ส.อลิสา อุ้มสิน อายุ 20 ปี ที่อยู่ 26 ม.6 ต.วังโตนด อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ผู้เสียหาย ซึ่งป่วยเป็นคนพิการไม่สามารถเดินได้ ต้องนั่งรถเข็นวีลแชร์ในการเดินทาง
โดยเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 19.00 น. น.ส.อลิสาฯ ได้เดินทางมายังศาลเจ้าพ่อเกศงามที่เกิดเหตุ โดยรถเข็นวีลแชร์ที่ติดตั้งอุปกรณ์หัวลากไฟฟ้า เพื่อมาหารายได้จากการขายน้ำดื่มให้กับลูกค้าที่มาเดินเที่ยวงานเทศกาลปีใหม่
จากนั้นได้ถอดอุปกรณ์ดังกล่าววางไว้บริเวณแบริเออร์ข้างศาลเจ้าพ่อเกศงาม แล้วได้เข็นเฉพาะรถเข็นวีลแชร์เข้าไปในงาน กระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค.67 น.ส.อลิสาฯได้กลับมายังจุดที่วางอุปกรณ์หัวลากไฟฟ้าไว้ ปรากฏว่าได้หายไป ไม่ทราบว่าผู้ใดลักเอาไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนนั้น
ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.สิทธาภรณ์ แท้เที่ยง สว.สส. ได้นำกำลังลงพื้นที่และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่เกิดเหตุ จนพบว่าเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 01.30 น. ได้มีผู้ก่อเหตุเป็นชายมายังที่เกิดเหตุโดยรถยนต์กระบะ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน และได้ลงจากรถแล้วเดินมาลักเอาอุปกรณ์หัวลากไฟฟ้าของผู้เสียหายบริเวณที่เกิดเหตุ และขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวออกจากที่เกิดเหตุไป
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุเดินทางมาทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ ประกอบกับการลงพื้นที่ออกสืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุได้ คือ นายสมหวัง รุณเจริญ อายุ 48 ปี ที่อยู่ 56 หมู่ 2 ต.ทุ่งนางโอก อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร และทราบว่าพักอาศัยอยู่ที่เพิงพักไม่มีเลขที่ ภายในซอยหนองเกตุใหญ่ 14 ม.1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้รีบเดินทางไปทำการตรวจสอบตามสถานที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบ นายสมหวังฯ ผู้ก่อเหตุ พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวจริง และพบอุปกรณ์หัวลากไฟฟ้าสำหรับรถเข็นวีลแชร์แขวนไว้ใต้ต้นไม้ด้านหลังเพิงพักดังกล่าว สอบถามนายสมหวังฯ รับว่าได้นำอุปกรณ์หัวลากไฟฟ้าดังกล่าวมาจากจุดที่เกิดเหตุจริง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นทำการจับกุมตัวและควบคุมตัว นายสมหวังฯ มายัง สภ.เมืองพัทยา
จากการสอบสวน นายสมหวัง รุณเจริญ ผู้ก่อเหตุ ให้การรับว่าได้นำเอาอุปกรณ์หัวลากไฟฟ้าสำหรับรถเข็นวีลแฃร์ของผู้เสียหายในคดีนี้จากที่เกิดเหตุไปจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะลักเอาไป เนื่องจากตนประกอบอาชีพเก็บขยะหรือเก็บของเก่าขาย ซึ่งในวันดังกล่าวได้ขับขี่รถยนต์ออกไปทำงานตามปกติ และได้มาเก็บของเก่าบริเวณจุดเกิดเหตุ เห็นอุปกรณ์ดังกล่าววางอยู่ในกองขยะคิดว่ามีคนนำมาทิ้งไว้ จึงได้เก็บมาใส่รถเพื่อนำไปให้หลานของตนไว้เล่น
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจึงได้จัดทำบันทึกการจับกุม และนำตัว นายสมหวังฯ ผู้ก่อเหตุ พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
