วันนี้ 22 ม.ค. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ท.สิทธาภรณ์ แท้เที่ยง สว.สส.ฯ นำกำลังชุดสืบสวนจับแก๊งเยาวชนหัวเกรียนปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประกอบด้วย ผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนจำนวน 5 คน อายุตั้งแต่ 13-15 ปี พร้อมของกลางอาวุธมีดดาบยาว 3 เล่ม รถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยมี นักท่องเที่ยวชาวคูเวต เป็นผู้เสียหาย
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2567 เวลาประมาณ 04.18 น. ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ว่ามีเหตุปล้นทรัพย์ชาวต่างชาติสัญชาติคูเวต ขณะที่ผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนท้ายซอยเย็นสบายเมื่อถึงบริเวณหน้าโรงแรมปิอุสเพลสได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5 คน ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ได้เรียกให้ผู้เสียหายหยุดรถแล้วหนึ่งในนั้นชักเอาอาวุธมีดออกมาขู่เพื่อจะเอาเงิน จากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ยอมให้และส่งเสียงโวยวาย กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงขับรถจักรยานยนต์หนีไป ผู้เสียหายจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปกลุ่มผู้ก่อเหตุและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไว้ แล้วจึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา และพนักงานสอบสวนได้แจ้งให้ศูนย์วิทยุแจ้งสกัดจับกลุ่มผู้ก่อเหตุในทันที
หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ และออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด และทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีมุ่งหน้าไปบริเวณชายหาดจอมเทียน กระทั่งพบรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุและกลุ่มเด็กวัยรุ่น ซึ่งมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอยู่ที่บริเวณชายหาดจอมเทียนซึ่งอยู่ตรงข้ามจอมเทียนซอย 3 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าทำการตรวจสอบ
จากการสอบถามกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ทุกคนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยในวันเวลาที่เกิดเหตุกลุ่มของพวกตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนท้ายซอยเย็นสบาย เมื่อถึงบริเวณหน้าโรงแรมปิอุสเพลส ได้พบผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บริเวณดังกล่าว จึงเรียกให้หยุดรถและชักอาวุธมีดมาข่มขู่ผู้เสียหายเพื่อบังคับให้ส่งทรัพย์สินให้แต่ผู้เสียหายไม่ยอมให้และส่งเสียงโวยวายขึ้น กลุ่มพวกตนตกใจ จึงรีบพากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป บริเวณชายหาดจอมเทียน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมบริเวณดังกล่าว
จากคำให้การรับสารภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุประกอบกับคลิปวิดิโอที่ผู้เสียหายได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายกลุ่มผู้ก่อเหตุไว้ ตลอดจนพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจยึดไว้ ซึ่งพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ เข้าข่ายเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเป็นการกระทำต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งเป็นการทำลายภาพลักษณ์ต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก.
