จีนและนาอูรูลงนามแถลงการณ์ร่วม ณ กรุงปักกิ่ง ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต ณ ระดับเอกอัครราชทูต โดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศเห็นพ้องจะแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตโดยเร็วที่สุด เป็นการรับรองว่าโลกนี้มีเพียงจีนเดียว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2567 รัฐบาลสาธารณรัฐนาอูรู (Republic of Nauru) ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะตัด “ความสัมพันธ์ทางการทูต” กับไต้หวัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 2567 พร้อมรับรองว่าจะไม่พัฒนาความสัมพันธ์หรือการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการกับไต้หวันอีกต่อไป
เหตุผลที่สาธารณรัฐนาอูรู ต้องการตัด “ความสัมพันธ์ทางการทูต” กับไต้หวัน เนื่องจากต้องการรับรองหลักการจีนเดียว โดยรัฐบาลนาอูรูโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า จะปฏิบัติตามมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 2758 ซึ่งรับรองว่าสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) เป็นรัฐบาลผู้แทนจีนทั้งหมดโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงหนึ่งเดียว และรับรองว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งอันมิอาจแบ่งแยกได้ของจีน
คำแถลงเสริมว่า “สาธารณรัฐนาอูรูจะไม่ยอมรับสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ว่าเป็นประเทศอีกต่อไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ และจะตัด ‘ความสัมพันธ์ทางการทูต’ กับไต้หวัน ณ ปัจจุบันนี้ โดยไม่พัฒนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการหรือการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการกับไต้หวันอีกต่อไป”
การตัดสัมพันธ์กับไต้หวัน เกิดขึ้นหลัง “ไล่ ชิงเต๋อ” จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลปัจจุบัน คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งนโยบายของ DPP เรียกร้องให้ไต้หวันมีเอกราช จนถูกจีนกล่าวหาว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน
“ไต้หวันไม่เคยเป็นประเทศมาก่อน ไม่เคยในอดีตและจะไม่มีวันเป็นในอนาคต” หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าว
หวังอี้ หารือกับลีโอเนล ไอน์กิเมอา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของนาอูรู ในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ระบุว่ารัฐบาลสาธารณรัฐนาอูรูรับรองว่าโลกนี้มีเพียงจีนเดียว รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลตัวแทนจีนทั้งหมดอันถูกต้องตามกฎหมายเพียงหนึ่งเดียว และไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งอันมิอาจแบ่งแยกของจีน โดยการลงนามแถลงการณ์ร่วม มีผลบังคับใช้โดยทันที
การลงนามแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของรับบาลนาอูรูว่ายอมรับในหลักการจีนเดียว โดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศเห็นพ้องจะแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจัดสรรความช่วยเหลืออันจำเป็นทั้งหมดสำหรับการจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูตแก่กัน รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่น่าจะพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนนาอูรูได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การแพทย์และสาธารณสุข พลังงานสะอาด เทคโนโลยีสารสนเทศ การติดต่อสื่อสาร การเกษตร การประมง และ การศึกษา เป็นต้น
นาอูรู หรือชื่ออย่างเป็นทางการ สาธารณรัฐนาอูรู เป็นประเทศเกาะและจุลรัฐในภูมิภาคไมโครนีเซีย ทวีปโอเชียเนีย ตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่เพียง 21 ตารางกิโลเมตร ทำให้นาอูรูเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากประเทศโมนาโกและนครรัฐวาติกันและเป็นสาธารณรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุด ด้วยจำนวนประชากรเพียง 10,670 คน จึงทำให้ประเทศนาอูรูเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากนครรัฐวาติกัน มีธรรมชาติสวยงาม ชายหาดขาวสวย แต่ไม่มีทรัพยากรอะไรนอกจากต้นมะพร้าว เกาะแห่งนี้จึงกลายเป็นเพียงแค่ทางผ่านของนักเดินเรือในแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี David Ranibok Adeang มีมุมมองที่แตกต่างจากอดีตประธานาธิบดีนาอูรูก่อนหน้านี้ และต้องการสร้างผลงานทางการเมืองผ่านการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่น่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ หนึ่งในนั้นคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนนั่นเอง