วันนี้ 2 ก.พ. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ต.อภินันท์ บุญยรัตน์ สวป.ฯ ได้มีการบูรณาการร่วมกับนางรัชนี วรรัตน์ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชลบุรี และปลัดอำเภอบางละมุง และเทศกิจเมืองพัทยา เพื่อลงพื้นที่สำรวจ ออกตรวจ กลุ่มคนเร่ร่อนไม่มีที่พัก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาเรื้อรังมาอย่างยาวนานในพื้นที่เมืองพัทยา
โดยจุดแรกเข้าตรวจสอบที่บริเวณชายหาดยินยอม เจ้าหน้าที่ใช้การขับรถยนต์ ไปตามชายหาดพบว่ามีคนเร่ร่อนมีหลากหลายกลุ่ม โดยมักจะอาศัยหลับนอนอยู่พื้นทราย ริมชายหาด บางกลุ่มก็นำเสื่อมาปูนั่ง เรียงรายอยู่บนฟุตปาธทาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ ลงพื้นที่ไปยังสายสองจอมเทียน พบบุคคลเร่ร่อนจำนวน 4 คน มีพฤติกรรมนั่งดื่มสุรา ยกมือไหว้ขอเงินจากนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาบริเวณข้างถนน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเคลื่อนย้ายกำลังไปที่อาคารร้างแห่งหนึ่ง บริเวณซอยจอมเทียน 1 และได้พบกับชายเร่ร่อนจำนวน 3 คน และผู้หญิงอีก 1 คน หนึ่งในนั้นถึงกับผงะ!! เพราะตรวจเจอยาเสพติดในตัวเป็นยาบ้าและยาไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่บริเวณกางเกงของ นานเอ (นามสมมุติ) หนึ่งในกลุ่ม เจ้าหน้าจึงได้ควบคุมตัวเพื่อนำไปที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อคัดแยกและตรวจสอบประวัติบุคคลว่ามีหมายจับติดตัวหรือไม่
ด้าน นางรัชนี ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนตาม มาตรา พรบ.22 คนไร้ที่พึ่ง เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือ และ เป็นการจัดระเบียบสังคม โดยจะยึดหลักนโยบาย ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คือไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ถ้าใครอยากให้ทางพม.เข้ามาคุ้มครองก็จะนำเข้าสู่กระขบวนช่วยเหลือ มีทั้งการจัดหาสวัสติการให้ ที่พัก ข้าว ก็มีให้ฟรี หรือหากใครอยากกลับบ้าน ทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชลบุรี ก็จะช่วยส่งกลับภูมิลำเนา เพื่อดำเนินการตามกระบวนการตามสภาพปัญหาของแต่ละประเภทแต่ละรายไป เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาในการช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ต่อไป
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการนำบุคคลเร่ร่อนทั้งหมดมาที่ สภ.เมืองพัทยา โดยมีการแบ่งแยกเป็นบุคคลเรร่อนทั้งหมด 14 ราย ยินยอมกลับภูมิลำเนา 4 ราย และไม่ยอมเข้าสู้กระบวนการ 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปลงบันทึกประจำวันเพื่อไม่ให้กลับไปพบที่จุดเดิมหากมีการกลับไปที่เดิมเจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการจับกุมได้เพื่อเข้าสู่กระบวนการ โดยอีก 6 ราย พบว่าเป็นผู้มีสารเสพติดในร่างกาย เมดเอมเฟตามีล หรือ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 และ อีก 1 ราย ถูกตั้งข้อกล่าวหาครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดี.
