วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกการเมือง‘เรืองไกร’ อวดรวย! โชว์เบนซ์ 2 คน เช็ค 25 ล.

Related Posts

‘เรืองไกร’ อวดรวย! โชว์เบนซ์ 2 คน เช็ค 25 ล.

“…วัชระ ร้อง ป.ป.ง. สอบสวนจริยธรรมร้ายแรง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับรถเบนซ์สองคัน และแคชเชียร์เช็คธนาคาร ๒๕ ล้านบาท ขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ถาม เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ รับจ้าวให้ใคร?…”

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่สำนักงาน ป.ป.ง. นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)ผ่าน นางสาวสุปราณี สถิตชัยเจริญ รองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ง. ขอให้สอบสวนจริยธรรมร้ายแรง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ โดย นายวัชระ ระบุว่า

ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมวลชนและเฟสบุ๊คของนายเรืองไกร “เรืองไกร นกมรจ” นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้รับรถเบนซ์ทั้งสองคันขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ตามสำเนาภาพจากเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ที่แนบมานี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) จึงถือว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” และปัจจุบันนายเรืองไกรฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐโดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ตามมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๕ วันที่ ๓-๕ มกราคม ๒๕๖๗ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๒) จึงอาจมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ป.ป.ช. และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒

ในฐานะที่ตนเป็นประชาชนผู้เสียภาษีจึงขอร้องเรียนตามกฎหมาย ป.ป.ง. ว่า นายเรืองไกรฯ อาจมีความผิดจากกรณีการครอบครองรถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน ได้แก่ รถเบนซ์สีดำจดทะเบียนในนามของนายเรืองไกรฯ และสีขาวไม่ทราบว่าจดทะเบียนในนามของผู้ใด (ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนจากการให้สัมภาษณ์ของนายเรืองไกรฯ ว่าผู้ใหญ่ใจดีซื้อให้) และหลังจากนายเรืองไกรได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ….. (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๓) ปรากฎข้อเท็จจริงว่านายเรืองไกรได้รับแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนประดิพัทธ์ เลขที่ ๐๐๐๙๐๙๘๒ ลงวันที่

๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ (วันที่ 22 เดือน 02 ค.ศ. 2021) สั่งจ่ายชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๔) โดยขณะเกิดเหตุรับแคชเชียร์เช็ค นายเรืองไกร เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ รับเช็คมาจากผู้ใด สาเหตุใดเพราะมีมูลค่าสูงมากซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพสามัญทั่วไป

จากข้อเท็จจริงดังกล่าวมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายเรืองไกร จะได้รับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานเนื่องจาก การเป็นกรรมาธิการถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงเข้าข่ายความผิดมูลฐานตามมาตรา ๓ (๕) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ และหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้วพบว่าทรัพย์สินที่ นายเรืองไกรรับไปเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานทุจริต การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาฐานฟอกเงินตามมาตรา ๕ (๓) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว เนื่องจากเป็นการได้ทรัพย์สินมาโดยรู้ในขณะที่ได้มาว่าทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานทุจริต ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึง ๑๐ ปี อีกฐานหนึ่งด้วย

ดังนั้นขอให้หน่วยงานของท่านเป็นผู้แทนในการสอบทานและตรวจสอบว่ารถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน และแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท ดังกล่าว นายเรืองไกรฯ เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ ที่ได้รับมาเกิดจากการรับทำงานให้ รับจ้างให้ใคร ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการได้มาจากการให้โดยเสน่หา และขอให้แจ้งกรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียภาษีจากการมีรายได้และทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ตรวจสอบกรรมาธิการงบประมาณฯ ชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และขอให้สอบเส้นเงินหรือธุรกรรมทางการเงินตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการงบประมาณ และเสียภาษีให้รัฐครบถ้วนหรือไม่

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักร้องเรียนและได้รับแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นกรณีที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จึงขอให้ท่านประธาน ป.ป.ง. ตั้งเรื่องการสอบสวนโดยเร็วที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

อนึ่งเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ผ่านมาเคยเผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับรถเบนซ์สีดำและสีขาวพร้อมเผยแพร่อย่างเปิดเผยกับสาธารณะนั้น (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) แต่บัดนี้ในปัจจุบันจากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตปรากฏว่าไม่พบเฟสบุ๊คของนายเรืองไกรแล้ว มีเหตุเชื่อได้ว่านายเรืองไกรได้ทำลายหลักฐานโดยปิดเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ไปแล้วตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๕)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts