(ตอน) สายไหมต้องรอด…สายใคร??
สังคมไทย..ยังต้องเดินย่ำรอยเท้า บนความซ้ำซากเดิมๆ หนักที่สุดก็ยังอยู่ในความไม่ปลอดภัย ถูกรุกล้ำจากผู้ฝ่าฝืน ยืนค้ำคออำนาจรัฐ…เหนือกฎหมายเหมือนเดิม
จึงต้องหันไปพึ่ง “สายไหมต้องรอด” ของ คุณเอกภพ…สายรัฐมนตรีอนุทิน มท.1 ก็กลายเป็น “พระเอก” ในทุกเรื่อง ที่ตำรวจกลายเป็น “ผู้ร้าย” ปล่อยวาง กับความรับผิดชอบ
อิทธิฤทธิ์ อิทธิพล...ของหน่วยอาสานี้ จึงเป็น “ขวัญใจ” ที่สายอื่นเข้าไม่ถึง ช่วยไม่ได้
หลายความรู้สึก…สะท้อนออกมา ความเดือดร้อนที่มีผลกระทบสังคม รุนแรงแค่ไหน…ที่ตำรวจปล่อยวาง ละเว้น เลือกปฏิบัติ
ไปร้องกับ…สายไหมต้องรอด ตำรวจจึงตื่นตัวกระตือรือร้น ทำหน้าที่ได้ทันทีทุกเรื่อง
จนกระทั่งทุกวันนี้ ที่พึ่งของประชาชน พูดกันติดปากชาวบ้านไปแล้ว…
“สายไหมต้องรอด ช่วยพวกเขาได้ดีกว่าตำรวจ”
เขาก็นั่งนินทาตำรวจ ยุค “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เหมือน “ตุ๊กตาไขลาน” หมดอายุ ขาดศรัทธาประชาชนไปแล้ว
อยากให้ “สายไหมต้องรอด” เข้าไปเปิดสำนักงาน ใกล้ๆ “บิ๊กต่อ” ทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์…ทุกเรื่อง ที่ตำรวจมองไม่เห็น
หรือ…บรรจุหัวหน้าพรรค สายไหมต้องรอด เป็นที่ปรึกษา ผบ.ตร.ไปเลย
สายไหมต้องรอด…ทำหน้าที่จี้ไชได้ทุกพื้นที่ แทนตำรวจไร้คุณภาพ…คงสนุกดี
ถ้ามีใครบ้าจี้ ตามแนวคิดนี้…จริงๆ จังๆ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ก็ต้องยกป้ายออกไป
เปลี่ยนชื่อใหม่…”สำนักงานสายไหมต้องรอดแห่งชาติ”
ดีกว่าไหม??
ถ้าไม่เห็นด้วย…เช่นที่เสนอมานี้ ก็ขอให้องค์กรตำรวจ ช่วยกันตั้งโรงงาน ผลิต น้ำยา “ล้างอาย” แจกจ่ายให้ตำรวจทั่วประเทศ นำไปฟอกหน้าตัวเองโดยทั่วถึงกัน
ครับ…แค่คิดไปตามกระแสสังคม กับสิ่งที่เห็นข้อเปรียบเทียบ ระหว่างอำนาจรัฐ มีนายเป็นฐาน และอำนาจเอกชน ที่แฝงตัวอยู่กับฐานการเมือง…ฝ่ายไหนทำหน้าที่เข้าถึงสิ่งที่ประชาชนต้องการมากกว่ากัน
แม้เป็นแค่เงาสะท้อนจากแสงแดด..บางเวลา ก็ยังดีกว่า “เงามืด” ที่เกาะเครื่องแบบ แอบอ้าง “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” จอมปลอม
ที่นั่งงอมืองอเท้า อ้างโน่นอ้างนี่ กับงานรับผิดชอบ…มองเห็น แต่ไม่ทำหน้าที่ เพื่อประชาชน