วันที่ 20 มีนาคม 2565 ครอบครัวของเยาวชนอายุ 17 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มวัยรุ่นไล่ยิง เหตุเกิดบนถนนคู่ขนานพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เหตุเกิดช่วงเช้ามืดของวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปที่นิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อติดต่อขอรับศพ ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดกก ซอยพระรามที่ 2 ซอย 44 แยก 3 ถนนพระรามที่ 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ด้านนายปิยะพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นปู่ของเยาวชนอายุ 17 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องจะติดเพื่อนและรักเพื่อน เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเรื่องกับใคร เพราะเท่าที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็จะเห็นเหตุการณ์ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้เข้าใจว่ามีเจตนาจะยิง แต่ไม่คิดว่าจะมายิงหลาน เพราะดูจากเหตุการณ์แล้วน่าจะหาเรื่องเขาไปทั่ว ก่อนหน้านี้ไม่นานได้เตือนหลานเรื่องการทำมาหากิน การเลือกคบเพื่อนอย่าไปคบเพื่อนที่ไม่ดี และอย่าออกไปไหน ซึ่งหลานของตนทำงานพาร์ทไทม์เกี่ยวกับการรับส่งสิ่งของพัสดุ โดยช่วงโควิดที่ผ่านมาได้ออกจากงานมาได้ 2-3 เดือนแล้ว ทั้งนี้ด้านการดำเนินคดีจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ลงโทษสถานหนักอย่างเดียว อย่างไรจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ยังไงก็ไม่ยอมเป็นลูกหลานใครก็ไม่ยอม หากจะมาขอขมาที่วัดอย่ามาเลยดีกว่า เพราะมาก็เรียกร้องอะไรคืนกลับมาไม่ได้
นางศิริอร (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นย่าของเยาวชนอายุ 17 ปี เปิดเผยว่า ไม่รับคำขอขมา และไม่รับคำขอโทษใดใดทั้งสิ้น จะดำเนินคดีอย่างเดียวทั้งกลุ่มที่ร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งบริเวณท่าข้ามเกิดเหตุบ่อยแต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุกับหลานเรา
ทั้งนี้ทางครอบครัวได้นำร่างของเยาวชนอายุ 17 ปี ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนจะประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดกก โดยจะตั้งบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 วัน โดยจะฌาปนกิจในวันที่ 23 มีนาคม 2565 นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สน.ท่าข้าม ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาทางญาติของผู้ก่อเหตุ ได้มาติดต่อขอเยี่ยม ส่วนเย็นนี้ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะเบิกตัวผู้ต้องหาจากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อมาทำการสอบปากคำรายละเอียดในคดีนี้
