“…วัชระ นั่งตรงที่ฝรั่งเตะหมอสาว ชูป้าย “…“ชายหาด” ที่สาธารณะประโยชน์ สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน…” วอน นายอนุทินจัดการอย่างเฉียบขาด ทั้งต่อกรณีกรมที่ดินตรวจสอบเอกสารสิทธิ และกรณีกรมการปกครองให้เพิกถอนใบอนุญาตปืน ทั้งปืนพกและปืนไรเฟิล ถามหาจิตสำนึก 4 สส.ก้าวไกล จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เกิดเหตุเคยลงพื้นที่บ้างไหม ชี้ต้องพิทักษ์รักษา ปกป้องชายหาดให้ประชาชน อย่าให้ตกเป็นของนายทุนคนใด…”
วันที่ 9 มีนาคม 2567 เวลา 15.00 น.นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์เดินทางไปที่ชายหาดแหลมยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หน้าบ้านที่เกิดเหตุฝรั่งเตะหมอ พบพี่น้องประชาชนเดินทางมาดูไม่ขาดสายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดย นายวัชระ ได้ทำป้ายมีข้อความว่า “…“ชายหาด” ที่สาธารณะประโยชน์ สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน…”
นายวัชระ กล่าวเรียกร้องว่า “ในวันนี้ได้เดินทางมาที่ชายหาดยามู ภูเก็ต เพื่อมาดูสถานที่ที่เกิดเหตุกรณีฝรั่งเตะหมอแล้วสั่นสะเทือนไปทั้งประเทศ เนื่องจากกรณีนี้นอกจากเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังสะท้อนการบุกรุกที่ดินของรัฐ ปัญหาการครอบครองอาวุธปืน ปัญหาฝรั่งชาวต่างชาติมามีอิทธิพลในประเทศไทย ผมจึงขอเรียกร้องไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โปรดดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเฉียบขาด ทั้งต่อกรณีกรมที่ดินตรวจสอบเอกสารสิทธิ ต่อกรณีกรมการปกครองให้เพิกถอนใบอนุญาตปืน ทั้งปืนพกและปืนไรเฟิล ซึ่งปืนไรเฟิลนั้นสำหรับยิงช้าง และขอให้กรมการปกครองเพิกถอนมูลนิธิ ถ้าตรวจสอบแล้วพบการกระทำความผิดตามกฎหมาย ขอให้นายอนุทิน ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเฉียบขาดต่อไป
ทั้งนี้ตนขอถามหาจิตสำนึกของ สส.จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกลทั้ง 4 คนว่า ชายหาดต้องเป็นของประชาชนทุกคน ไม่ใช่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถามว่า สส. จ. ภูเก็ตทั้ง 3 คน พรรคก้าวไกล และ สส. รังสิมันต์ โรม ซึ่งเป็นชาวภูเก็ต รวม สส. พรรคก้าวไกลทั้ง 4 คน ชาว จ.ภูเก็ต ได้เคยมาที่เกิดเหตุบริเวณแหลมยามูแล้วหรือยัง ขอเรียกร้องให้ สส. พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติรักษาชายหาดให้เป็นของพี่น้องประชาชนทุกคน อย่าให้ตกเป็นของนายทุนคนใดคนหนึ่ง
จากนั้นนายวัชระได้เดินสำรวจดูบริเวณชายหาดพบว่าเทศบาลตำบลป่าครอกได้มาติดประกาศคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 สิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำมาในที่สาธารณะอีก 3 หลัง