วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พา พันตำรวจโท วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (พ.ต.ท.ที่ถูก พ.ต.อ.กราบเท้า...

Related Posts

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ พา พันตำรวจโท วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (พ.ต.ท.ที่ถูก พ.ต.อ.กราบเท้า และถูกเพื่อนโกงชุดตำรวจ)

เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินคดีกับพนักงานอัยการ และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 200 เป็นเจ้าพนักงานกระทำการโดยมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง

กรณีสั่งคดีโดยไม่อยู่ในรากฐานในความสมเหตุผล ในคดีที่ พันตำรวจโท วุฒิพงษ์ เป็นผู้เสียหายที่ถูกนายทหารยศพันตรีในขณะนั้น ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนเตรียมทหาร ที่ฉ้อโกงค่าตัดเครื่องแบบตำรวจ มูลค่ากว่า 5,200,000 บาท เมื่อปี 2561 โดยอ้างว่าได้รับโควตาผ้ากากี สนว.01 จากร้านทรงสมัย และระบุว่ามีกำลังการผลิตชุดเครื่องแบบตำรวจซึ่งเป็นแม่บ้านในค่ายทหารสามารถตัดชุดเครื่องแบบตำรวจได้ 5000-7000 ชุดต่อเดือน ทำให้ผีตำรวจได้รับความเดือดร้อนกว่า 5000 คน

ซึ่งในชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวน พบพยานหลักฐานว่าผู้ถูกกล่าวหาเข้าขายความผิดในหลายส่วน จึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับคู่กรณีในข้อหาฉ้อโกง และ ร่วมกันขายของโดยหลอกลวง ไม่ตรงคุณภาพ

แต่ต่อมาพนักงานอัยการในคดีนี้มีคำสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งขัดแย้งกับพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน และไม่ได้มีคำสั่งให้ส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนกลับไปสอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด ซึ่งหลังมีคำสั่งคดี ก็ส่งให้อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาคำสั่งฟ้อง ซื่งทางอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีก็ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องด้วยเช่นกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญามีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ผู้ว่าราชการจังหวัดถึงต้องพิจารณาคำสั่งฟ้องของพนักงานอัยการด้วย ซึ่งพันตำรวจโท วุฒิพงษ์ เห็นว่าเป็นการสั่งคดีที่ผิดปกติ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 2 คน

มีรายงานว่าพนักงานอัยการที่ ตำรวจโท วุฒิพงษ์ มาแจ้งความดำเนินคดีนั้น ปัจจุบันเป็นรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งพันตำรวจโท วุฒิพงษ์ เคยยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดหลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบการสั่งคดีของพนักงานอัยการคนดังกล่าวแต่อย่างใด

สำหรับกรณีนี้ ทางกองทัพบกได้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการไกล่เกลี่ยจนได้ข้อตกลงว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะคืนเงินให้จำนวน 3,500,000 บาท ซึ่งต่อมาทางกองทัพบกให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นมาจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งผู้ถูกกล่าวหายังติดค้างกันอีก 1,500,000 บาท ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินครบจำนวน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts