“….กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้ดำเนินการปราบปรามเครือข่าย “โกฟุก” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินจากการพนันออนไลน์ และผูกขาดตลาดน้ำมันในพื้นที่เมืองเกาะสอง ได้ออกหมายจับจำนวน ๑๘ หมาย ซึ่งรวมถึงนายอู จอว์ ลวิน หรือนายสง่า กังวาล ชายสองสัญชาติเมียนมาและไทยซึ่งยังคงหลบหนี ในพื้นที่ ๒๗ จุด ขอสอบถามว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อนและการฟอกเงิน ส่งผลกระทบต่อรัฐเสียหายนับหมื่นล้านบาท กรมสรรพากรทราบข้อเท็จจริงคดีนี้หรือไม่ ได้สั่งการตรวจสอบอย่างไร ผลเป็นอย่างไร สรรพากรพื้นที่เกิดเหตุตรวจสอบพบเห็นความไม่ถูกต้องในการเสียภาษีหรือพฤติการณ์ที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีต่าง ๆ หรือไม่ มีข้อมูลผู้เสียภาษีรายนี้อยู่ในระบบภาษีการค้าน้ำมันเถื่อนหรือไม่ เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่ และแจ้งความดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับภาษีหรือไม่ เมื่อใด..”
“วัชระ”ยื่นหนังสือถึง”กุลยา”
อธิบดีกรมสรรพากร
ให้สอบภาษีโกฟุกน้ำมันเถื่อน
แปลกใจสรรพากรไม่แจ้งความกฎหมาย
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปยื่นหนังสือกับ นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร ขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีการประกอบธุรกิจของ นายอู จอว์ ลวิน หรือ นายสง่า กังวาล และให้กรมสรรพากรร้องทุกข์กล่าวโทษตามกฎหมาย พร้อมด้วยด้วย 1. สำเนาข่าวสำนักข่าวอิศราลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลเผด็จการเมียนมารับลูก DSI ออกหมายจับโกฟุก ผู้ต้องหาพนันออนไลน์-เจ้าของ รร.หรูริมชายแดน จำนวน 1 ชุด
2. สำเนาข่าวสำนักข่าวอิศราลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 อสส.มอบหมายอัยการ ทำงานร่วม DSI สอบคดีโกฟุก นัดประชุมร่วม 13 ก.พ. จำนวน 1 ชุด
3. ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 8 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2520
จากรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้ดำเนินการปราบปรามเครือข่าย “โกฟุก” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินจากการพนันออนไลน์ และผูกขาดตลาดน้ำมันในพื้นที่เมืองเกาะสองโดยจะนำเข้าน้ำมันมาขายจาก จ.ระนอง กรณีนี้ทางการไทยได้ออกหมายจับจำนวน 18 หมาย ซึ่งรวมถึงนายอู จอว์ ลวิน หรือนายสง่า กังวาล ชายสองสัญชาติเมียนมาและไทยซึ่งยังคงหลบหนี หลังจากที่ดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นในพื้นที่ 27 จุดรวมถึงบ้านของนายอูที่ จ.ระนอง ซึ่งสื่อในประเทศไทยระบุว่าคือโกฟุก
ตนในฐานะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ขอถามว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อนและการฟอกเงิน ส่งผลกระทบต่อรัฐเสียหายนับหมื่นล้านบาท กรมสรรพากรทราบข้อเท็จจริงคดีนี้หรือไม่ และได้สั่งการตรวจสอบอย่างไร ผลเป็นอย่างไร สรรพากรพื้นที่เกิดเหตุตรวจสอบพบเห็นความไม่ถูกต้องในการเสียภาษีหรือพฤติการณ์ที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีต่าง ๆ หรือไม่ มีข้อมูลผู้เสียภาษีรายนี้อยู่ในระบบภาษีการค้าน้ำมันเถื่อนหรือไม่ เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่ และแจ้งความดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับภาษีหรือไม่ เมื่อใด
นายวัชระกล่าวต่อว่า ดังนั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ จึงขอให้กรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่กฎหมายและแจ้งความดำเนินคดี นายสง่า กังวาล กับพนักงานสอบสวนตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 8 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2520 ข้อ 2ภายใน 15 วัน เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษีให้กับประชาชนในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำและช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับประเทศในระยะยาวต่อไป ตามวิสัยทัศน์ “องค์กรชั้นนำที่จัดเก็บภาษีอย่างโปร่งใสเป็นธรรมด้วยนวัตกรรมและบุคลากรคุณภาพเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการคลัง”
โดยนายวัชระกล่าวทิ้งท้ายว่า หากไม่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นจึงอยากให้ นางสาวกุลยา ในฐานะอธิบดีกรมสรรพากรพิจารณาดำเนินการอย่างเร่งด่วน