ภายหลังราคายางพารา ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในรอบ 7 ปี โดยตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน ราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ราคายังอยู่ที่ 90-95 (ข้อมูลอ้างอิงจากการยางแห่งประเทศไทย) ส่วนยางแผ่นดิบ น้ำยางสด และยางถ้วย ราคาจะลดหลั่นกันไป
ทั้งนี้ ราคายางที่สูงขึ้นในรอบ 7 ปี ซึ่งนอกจากจะทำให้เจ้าของสวนยางมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้ว กลุ่มแรงงานที่รับจ้างกรีดยางแบ่งเปอร์เซ็นต์ ทั้งแรงงานไทย และแรงงานต่างชาติ ก็ได้รับอานิสงส์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพราะปัจจุบันชาวสวนยาง นิยมจ้างแรงงานกรีดยาง กว่ามากการลงมือกรีดเอง โดยจะแบ่งเปอร์เซ็นต์จากผลผลิตที่ได้ในแต่ละ เช่น 50/50 หรือ 45/55 หรือ 40/60 แล้วแต่จะมีการตกลงระหว่างคนกรีดยาง กับเจ้าของสวนยาง
นาย สอน อายุ 48 ปี แรงงานชาวมอญ กล่าวว่า ตนและครอบครัว เข้ามาทำงานรีบจ้างกรีดยางที่ประเทศไทย กว่า 10 ปี แล้ว โดยการแบ่งเปอร์เซ็นต์กับเจ้าของสวนยาง ซึ่งคนกรีดยางได้ 45 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเจ้าของสวนได้ 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสวนยางแห่งนี้ ทำยางแผ่น ซึ่งขายได้ราคาดีกว่าน้ำยาง และ ยางถ้วย แต่มีขั้นตอน และใช้เวลาการทำนานกว่า
“เมื่อราคายางเพิ่มสูงขึ้น เจ้าของสวนและคนกรีดยางก็ได้เงินเพิ่มขึ้นด้วย ปัจจุบันมีรายได้จากการกรีดยาง ทุกวันวันละ 1,500 บาท โดยก่อนหน้านี้ราคายางเคยอยู่ที่ 120 บาท แต่ก็เมื่อหลายปีก่อน”
.
ทางด้าน นายสุวรรณ และ นางมาลี พิจารณ์ สองสามีภรรยา ชาวจ.ศรีสะเกษ ซึ่งมารับจ้างกรีดยางที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี กล่าวว่า มารีบจ้างกรีดยางกว่า 30 ปีแล้ว โดยแบ่งรายได้กับเจ้าของสวนยาง 50/50 เมื่อราคายางเพิ่มสูงขึ้น คนกรีดยางก็ดีใจตามไปด้วย เพราะจะทำให้มีรายได้เพิ่มขี้น สามารถลืมตาอ้างปาก มีเงินไปใช้จ่ายหนี้ และจ่ายค่าเทอมลูกที่กำลังศึกษา เพราะที่ผ่านมาราคายางไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ราคาขยับสูงขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้ราคายางขยับสูงขึ้น และขอให้ขยับขึ้นแบบนี้เรื่อยๆ และนานๆ
