เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 28 มี.ค.67 ที่ กองกำกับการ 3 บก.ปปป. ชั้น 15 อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
นายกฤษฎา อินทามระ ฉายาทนายปราบโกงเข้าพบ พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปปป.พ.ต.ท.หญิง กรแก้ว ประหยัดทรัพย์ รอง ผกก.(สอบสวน)กก.3 บก.ปปป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่
สปก.โคราช พร้อมเอกชนรวม 13 ราย ร่วมกันกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157
อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากที่ตนได้เคยร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูง สปก.ไว้แล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มี.ค.67 ตนได้ลงพื้นที่บริเวณด้านหลังโรงงานแป้งมันซึ่งเป็นที่ดินของ สปก.กว่า 600 ไร่เชื่อว่าเป็นที่ดิน สปก ตำบลหนองบัวศาลา อ.เมือง นครราชสีมา โดยมีเจ้าหน้ารับผิดชอบและเกี่ยวข้องหลายฝ่ายของจังหวัดนครราชสีมา ร่วมลงไปตรวจสอบด้วย
ในการลงพื้นที่จึงพบว่ามีการใช้ที่ดินผิดจากวัตถุประสงค์ที่ขออนุญาตใช้ในการเกษตรกรรม เลี้ยงปลาและปลูกสาหร่าย แต่กลับมีการปล่อยน้ำเสียที่ไม่ได้รับการบำบัด เชื่อว่ามาจากโรงงานแป้งมันฯ ที่ระบายน้ำเสียเข้ามาในบ่อต่างๆ จำนวนหลายสิบบ่อ โดยปล่อยทิ้งให้น้ำเสียบำบัดเองตามธรรมชาติ สภาพน้ำที่ตรวจพบไม่สามารถที่จะปลูกสาหร่ายและเลี้ยงปลาได้
ข้อมูลจาก จนท.สปก นครราชสีมา ระบุว่า ที่ดินดังกล่าวมีเอกชน 13 รายขอใช้ที่ดิน สปก.โดยอ้างว่าใช้เลี้ยงปลาและปลูกสาหร่าย แต่ความจริงแล้วเป็นการทิ้งน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นในที่ดินของ สปก กว่า 600 ไร่ นอกจากนี้ยังพบปั๊มสูบน้ำขนาดใหญ่กำลังแรงม้าสูง จำนวนหลายเครื่องติดตั้งแบบถาวรใช้สูบน้ำจากบ่อหนึ่งไปอีกบ่อหนึ่ง
ทนายปราบโกง กล่าวว่า เมื่อพบว่ามีการใช้คนอื่นมาถือครองที่ดินแทนจำนวน 13 ราย ในวันนี้ตนจึงต้องมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ สปก.และเอกชน 13 ราย ต่อ ผกก.3 บก.ปปป.ให้ถึงที่สุดต่อไป
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนสอบปากคำทนายกฤษฎา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป