(9 เม.ย.67) จากเหตุการณ์สายแก๊สรั่วทำเพลิงลุกไหม้บ้านทาวน์เฮาส์ถึง 4 หลัง ประกอบไปด้วยบ้านเลขที่ 226/65, 226/66, 266/67, และ 226/68 ภายในการเคหะแหลมฉบังฯ ม.6 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนมอดไหม้ 3 หลัง ได้รับความเสียหายอีก 1 หลัง นอกจากนี้ยังมีเงินสดอีกนับล้านบาทของนางสาวจิราวรรณ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิงถูกเผาไหม้ในกองเพลิงตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกิ่งกาชาดอำเภอบางละมุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ลงพื้นที่บริเวณดังกล่าว เพื่อติดตามความคืบหน้าของสาเหตุของการเกิดเพลิงลุกไหม้ พร้อมทำการช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกไฟไหม้จนวอด ประกอบด้วย นางสาวจิราวรรณ พรหมชาติ อายุ 28 ปี อาชีพค้าขาย และนางสาวไพรัตน์ เชาวลิต อายุ 60 ปี ด้วยการมอบถุงยังชีพและเงินสดจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น
จากการสอบถาม นางสาวจิราวรรณ ผู้เช่าบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น เลขที่ 226/66 และ 226/67 และ ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิงเล่าด้วยน้ำตาคลอตาว่า ในขณะที่ตนนอนพักผ่อนอยู่ชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 226/66 ลูกจ้างได้ทำการจุดไฟแก๊สหุงต้มเพื่อนึ่งข้าวไปจำหน่าย ขณะทำการเชื่อมสายแก๊สเข้าไปยังเตาไฟฟ้าเกิดเพลิงไหม้ตัวสายอย่างรวดเร็วจนลุกลามไปทั่ว มีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย ทั้งหมด รวมไปถึงเงินสดจำนวนล้านกว่าบาทที่ตนเก็บสะสมไว้ในถุงกระสอบ ที่ไม่สามารถนำออกมาด้วยได้ ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ได้มาจากการทำการค้าของตน ด้วยการขายส่งเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค บริโภค และข้าวสาร ตามนิคมอุตสาหกรรมต่าง และตามพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งนึ่งข้าวขายด้วย โดยสะสมไว้มากว่า 2 ปี ส่วนที่ไม่นำไปฝากไว้กับธนาคารด้วยเกรงว่าเงินจะถูกดูดออกจากธนาคาร ดังเช่นที่เป็นข่าวและเพื่อน ๆ หลายคนของตนก็โดนเช่นเดียวกัน ส่วนโจรขโมยนั้นก็กลัวเหมือนกัน แต่คิดว่าที่บ้านมีกล้องวงจรปิด หากเกิดเหตุ น่าจะนำเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ติดตามมาดำเนินคดีได้
นางสาวจิราวรรณ กล่าวอีกว่าตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเสียดายเงินเก็บที่สะสมมานับล้านบาท ซึ่งตอนนี้หมดสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง และขอโทษกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับความเสียหายทั้งหมด ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งบ้านบางหลังมีประกันอัคคีภัย ก็จะประสานประกันเข้ามาดูแล ก็ไม่ถือโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าเป็นเหตุสุดวิสัย