วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกการเมืองสุทิน “ดี๊ด๊า” เจรจาเอกชนจีน

Related Posts

สุทิน “ดี๊ด๊า” เจรจาเอกชนจีน

“….การเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อคุยกับ จีน ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าโครงการซื้อเรือดำน้ำเป็นโครงการ รัฐบาลกับรัฐบาล ไฉนถึงไม่ติดต่อพูดคุยกับรัฐมนตรีจีน คนของรัฐบาลจีน จะระดับไหนก็ได้ แต่ดันไปคุยกับภาคเอกชนซะอย่างนั้น  มันน่าแปลกใจจริงๆ ถ้าจะบอกว่าประสบความสำเร็จในการเจรจากับรัฐบาลจีน ก็ช่วยกรุณาโชว์ชื่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จีนมาสักคน เป็นใคร ตำแหน่งอะไร มีรัฐมนตรีของรัฐบาลจีนเข้าร่วมการเจรจาด้วยมั้ย ในเมื่อทีมงานที่ไปของเราระดับบิ๊กๆ ทั้งนั้น  ที่ไปร่วมเจรจาในครั้งนี้ แต่ดันทำได้แค่คุยกับพ่อค้าคนจีนเท่านั้น มันเลยแปลกใจมากไง? ครั้งนี้ดูเหมือนไม่มีข่าวจากรัฐบาลจีนออกมาร่วมด้วยเลย นายสุทิน คลังแสง ผู้บัญชาการทหารเรือไม่รู้สึกเอะใจบ้างหรือว่า การคุยกับเอกชนจีน เรื่องใหญ่ระดับชาติ แล้วออกมาเป็นข่าวใหญ่โตระดับชาติ รัฐบาลจีนเขาจะรู้สึกอย่างไร เป็นถึงระดับรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ไปประเทศจีนทั้งที เหยียบแผ่นดินจีนทั้งที ไม่ไปจับมือกับคนในรัฐบาลจีนเลย ..ไม่ให้เกียรติเขาเลยหรือ..”

นาย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม

เห็นเรื่องราวของ นาย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม  พร้อม พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเร่งด่วน  เมื่อคืนวันที่ 25 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา  และไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี  พร้อมกับมีกระแสข่าวว่าเป็นการไปเจรจาในเรื่องเรือดำน้ำ ก่อนจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี  และอาจเกี่ยวข้องกับตัวเลือกเรือฟริเกตจีนด้วย

โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า นายสุทิน , ผบ.ทร. และ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปพร้อมกันด้วย

จากนั้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางคณะได้มีการหารือกับบริษัทและหน่วยงานของจีน ที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดหาเรือดำน้ำของไทย เพื่อประเมินแนวทางต่างๆ ในทางเลือก ต่อการเดินหน้าหรือยกเลิกโครงการ จะส่งผลอย่างไรบ้าง ก่อนเสนอเรื่องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา

ทั้งนี้กองทัพเรือได้ยืนยันแนวทางเดิมคือการเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใช้เครื่อง CHD 620 ของจีน พร้อมกับนำเสนอ 3 แนวทางตามที่เคยให้สำนักงานอัยการสูงสุดตีความ เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขสัญญาที่ต้องผ่าน ครม. เห็นชอบ ทั้งชนิดเครื่องยนต์และการขยายเวลาสัญญา เพราะเป็นโครงการรัฐต่อรัฐ

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าฝั่งรัฐบาลได้เสนอแนวทางเพิ่มเติม คือ การไปพูดคุยกับบริษัทเอกชนของจีน ในการโยกเงินค่างวดงานที่ไทยจ่ายให้จีนไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท ให้ไปจัดหาเรือฟริเกตจากจีนแทน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้และข้อดี-ข้อเสียต่างๆ ก่อนเสนอเรื่องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อไป

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ต้องดูท่าทีของฝ่ายจีนจะยอมรับข้อเสนอนี้หรือไม่ และต้องพิจารณาข้อกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่จีน นายสุทิน ได้เดินทางต่อไปยังประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งต้องจับตาดูว่า นายสุทิน จะไปเจรจาการจัดหาเรือผิวน้ำจากเกาหลีใต้หรือไม่ เพื่อบรรจุในแผนงบประมาณปี 2568

เรื่องนี้ดูเหมือน นายสุทิน คลังแสง และคณะจะมีผลงานประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าโครงการซื้อเรือดำน้ำเป็นโครงการ รัฐบาลกับรัฐบาล ไฉนถึงไม่ติดต่อพูดคุยกับรัฐมนตรี คนของรัฐบาล จะระดับไหนก็ได้ แต่ดันไปคุยกับภาคเอกชนซะอย่างนั้น  มันน่าแปลกใจจริงๆ

ในคณะมีทั้งรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นข้าราชการระดับสูงทั้งทางการเมืองและข้าราชการประจำไทย แต่ดันไปคุยกับภาคเอกชน ซึ่งไม่น่าจะจำเป็นต้องไปถึงจีนเลย แค่นัดหมายภาคเอกชนจีนมาคุยที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องไปถึงจีนหรอกครับ แล้วตีฆ้องร้องเป่าว่าประสบความสำเร็จได้อย่างใด

เพราะเอกชนจีนการทำธุรกิจเขาก็ต้องหวังผลกำไร เชื่อเถอะไม่ว่าจะเจรจาเรื่องอะไรเขาก็มาแน่นอน หรือจ้างให้เขาเป็นผู้ประสานงานติดต่อกับรัฐบาลจีนก็ได้  พ่อค้าจีนจะกระดี๊กระด๊ามากมาย เพราะการค้าอย่างนี้ ไม่มีทางขาดทุนแน่นอน

หรือทางคณะ นายสุทิน คลังแสง อยากจะบอกว่าประสบความสำเร็จในการเจรจากับรัฐบาลจีน ก็ช่วยกรุณาโชว์ชื่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จีนมาสักคน เป็นใคร ตำแหน่งอะไร มีรัฐมนตรีของรัฐบาลจีนเข้าร่วมการเจรจาด้วยมั้ย ในเมื่อทีมงานที่ไปของเราระดับบิ๊กๆ ทั้งนั้น  ที่มาร่วมเจรจาในครั้งนี้ แต่ดันทำได้แค่คุยกับพ่อค้าคนจีนเท่านั้น มันเลยแปลกใจมากไง?

ถ้าคุยกับพ่อค้าคนจีน การใช้ชื่อว่าประสบความสำเร็จในการเจราจากับรัฐบาลจีนจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ หากบอกว่าไปเจรจากับบริษัทนายหน้าของจีน เพื่อช่วยประสานงานพูดคุยกับรัฐบาลจีนให้หน่อย อย่างนี้น่าจะถูกกว่ามั้ง?

อยากจะบอก นายสุทิน คลังแสง ได้โปรดระมัดระวังด้วย เพราะในอดีตเคยเกิดเรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้นกับ รัฐมนตรี เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ของไทยมาแล้ว  เคยถูกแก๊ง 18 มงกฏจีนหลอกมาแล้ว  เรื่องเชิญไปเจรจาโปรเจคใหญ่เรื่องขุดคอคอดกระ โดยจะให้ไปเจรจากับรัฐบาลจีน พอไปถึงก็ร่วมกันถ่ายรูปมีภาษาจีนเป็นฉากหลัง ครั้งนั้นรัฐบาลจีนงงไปเลย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมรัฐบาลไทย ไม่คุยกับรัฐบาลจีน ดันไปคุยกับเอกชน เป็นตำนานการปาหี่ระดับชาติมาแล้ว

ครั้งนี้ดูเหมือนไม่มีข่าวจากรัฐบาลจีนออกมาร่วมด้วยเลย แม้เอกอัครราชฑูตจีนประจำประเทศไทยก็ไม่ได้แถลงการณ์อะไรออกมา

นายสุทิน คลังแสง ผู้บัญชาการทหารเรือไม่รู้สึกเอะใจบ้างหรือว่า การคุยกับเอกชนจีน เรื่องใหญ่ระดับชาติ แล้วออกมาเป็นข่าวใหญ่โตระดับชาติ รัฐบาลจีนเขาจะรู้สึกอย่างไร เป็นถึงระดับรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ไปประเทศจีนทั้งที เหยียบแผ่นดินจีนทั้งที ไม่ไปจับมือกับคนในรัฐบาลจีนเลย ..ไม่ให้เกียรติเขาเลยหรือ

ระวังจะเป็นปาหี่ระดับชาติ นะจะบอกให้!!!

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts