เมื่อวันอังคาร (16 เม.ย.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน ช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปีนี้ อยู่ที่ 29.63 ล้านล้านหยวน (ราว 148.15 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบปีต่อปี และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส
การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีนบรรลุผลสำเร็จใหม่ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยเศรษฐกิจจีนยังคงรักษาทิศทางการฟื้นตัวและเริ่มต้นได้ดี การเติบโตในไตรมาสแรก เป็นผลจากการดำเนินนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลและการเพิ่มความพยายามควบคุมระดับมหภาค
ขณะเดียวกัน ปัจจัยเชิงบวกหลายประการในไตรมาสแรกของปีนี้ เช่น อุปสงค์ทางการผลิตที่เพิ่มขึ้น การจ้างงานและราคาที่มีเสถียรภาพ และความเชื่อมั่นของตลาดที่เพิ่มขึ้น ช่วยขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง รวมถึงวางรากฐานอันดีต่อการเติบโตตลอดทั้งปีนี้ โดยจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจตลอดทั้งปี 2024 ไว้ที่ราวร้อยละ 5
หนึ่งในแรงผลักดันเศรษฐกิจไตรมาสแรกของจีนคือ อุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่จีนให้ความสำคัญและเป็นปัจจัยหนุนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทไฮเทคเติบโตอยู่ที่ 11.4% จาก 10.3% ในปี 2566
เมื่อไม่นานนี้ สถาบันนานาชาติเพื่อการพัฒนาการจัดการ (IMD) ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดตัวดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนผ่านของบริษัทในประเทศจีน (CCTI) ซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี เภสัชภัณฑ์ และเครื่องแต่งกาย พร้อมเสริมว่าจีนกำลังกลายเป็นมหาอำนาจระดับโลกด้านเทคโนโลยีและเภสัชภัณฑ์
รายงานระบุว่ากลุ่มบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตยังคงครองตลาดเทคโนโลยีของจีน โดยมี ไป่ตู้ (Baidu) อาลีบาบา (Alibaba) เทนเซ็นต์ (Tencent) เจดีดอตคอม (JD.com) และเน็ตอีส (NetEase) เป็น 5 อันดับแรก
กลุ่มธุรกิจยานยนต์อย่างบีวายดี (BYD) และซีเอทีแอล (CATL) บริษัทพลังงานใหม่และแบตเตอรี่ กำลังก้าวสู่ระดับโลก นวัตกรรมซึ่งบริษัทชั้นนำทุกแห่งล้วนเคยหรือกำลังลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่ออนาคต ทำให้ปีมังกรจะเป็น “ปีแห่งการผงาดขึ้น” ของเศรษฐกิจจีน