อำนาจ “บ่าว-ไพร่” ในยุค “ไฟการเมือง”
ความซื่อสัตย์สุจริต ต่อตนเองและผู้อื่น หมายถึงแง่มุมหนึ่งของ “ศีลธรรม” หมายถึงคุณลักษณะทางบวกของ “คุณธรรม”
ที่ค่อยๆ ละลายไปในตัวตน คนที่บอกแค่ทางกายภาพเพียงภายนอกให้คนอื่นมองเห็น
แต่….ภายในตัวตน มิได้สร้างความล้ำลึกในความจริงใจแม้กับตัวเอง
อยากได้ใคร่มี…มันฝังรอยบาปติดตัวไปในทางผิดได้เสมอ
แม้…ทุกตำราทุกวิชาอาคม บ่งบอกถึง คำสอนในลัทธิใดๆ จะนำสู่ทางแห่งสัจธรรม ยังนำพาบิดเบี้ยวไปสู่กรรมได้เสมอ…
สำหรับคนคิดชั่ว…เพื่อเอาชนะความดีใดๆ รู้ชั่วดีในเมื่อเดินถึงสุดทางบุญ ที่ทุ่มเทไว้ด้วย “อำนาจ”
ชาวโลกและชาวเรา…ร่มโพธิ์ร่มไทรในใบบุญ ไม่ได้ร่วงหล่นไปไหนได้ ยกเว้น นรกมันมาจูงมือให้เดินตามมันไป…ในสิ่งผิด!!
หลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมของแต่ละศาสนา จึงให้ค่าความซื่อตรง ซื่อสัตย์ เป็นอย่างมาก
ในหลายบริบท…ที่คอยเกาะสายบุญบังรอยบาป สุดท้ายก็ปิดกรรมไม่มิด
เหมือนเช่นนักก่อกรรม สายการเมือง กับพวก นักรบ สีกากี “ทำชั่วได้ดี…แค่เดินจูงกันไปสู่เส้นทางบาป”
คอยดู…ยศฐาบรรดาศักดิ์ สูงส่งแค่ไหน ร่วงสู่ดิน คือ…กรรมเอาคืน
ครับ…สะท้อนต่อสิ่งที่มองเห็น ในแนวคิด แย่งฐานการเมือง ลงทุนเผาป่า ให้เกิดปัญหา “ไฟการเมือง”
โยนบาปสู่แผ่นดินเกิด เพื่อเอาชัยชั่วร้าย เผาผลาญบ้านเมือง อันเป็นแผ่นดินเกิดตัวเองและลูกหลาน
สัตว์ป่ามันยังกลัวตาย…จากแรงไฟป่าที่ลามข้ามนรก!!
นรกกลับมาเกิดในกองทัพสีกากี….ที่มีนายเป็นนักการเมือง แย่งชิงอำนาจบนสายทางเดินของพวกนาย
ไม่อายฟ้าอายดิน ปากกับใจไม่ตรงกัน พูดออกมาหน้าตาเฉย “เราทำงานเพื่อประชาชน”
ลิงหลอกเจ้า…บ่าวหลอกนาย คือ…เส้นทางอำนาจของ “บ่าว-ไพร่” ในยุคนี้