“การปล่อยให้อเมริกาเข้ามาแทรกแซง ปลุกระดมกลุ่มแบ่งแยกดินแดน เพื่อเอกราชของไต้หวัน หวังใช้เป็นเครื่องมือจำกัดอิทธิพลของจีน กำลังลากไต้หวันเข้าสู่สถานการณ์อันตราย ใครคิดแยกไต้หวันจากจีน ต้องพบจุดจบด้วยการทำลายตัวเอง”
นั่นคือคำกล่าวของ ต่ง จวิน รัฐมนตรีว่าการกลาโหมของจีน ในระหว่างการประชุมสุดยอดความมั่นคงแห่งเอเชีย หรือ แชงกรีลา ไดอะล็อก ครั้งที่ 21 ที่ประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากสมาชิกพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ DPP ของไต้หวัน กำลังพยายามแยกไต้หวันออกจากจีนทีละน้อย พร้อมเตือนว่า พวกเขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นความอัปยศในประวัติศาสตร์
การเข้ามาแทรกแซงไต้หวันของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นชนวนสำคัญ ทำให้ความร้าวฉานบานปลาย ล่าสุดสหรัฐประกาศให้งบประมาณความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวันมูลค่า 345 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.18 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ครั้งใหญ่ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อช่วยไต้หวันในการตอบโต้กับจีน
ขณะที่ สำนักงานกิจการไต้หวันของจีน ออกแถลงการณ์คัดค้านความช่วยเหลือทางทหารดังกล่าวแก่ไต้หวัน พร้อมกล่าวหาสหรัฐว่ากำลังเปลี่ยนไต้หวันให้เป็นคลังเก็บอาวุธ และทำให้ภัยคุกคามของสงครามในช่องแคบไต้หวันยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
“ไม่ว่าอาวุธของสหรัฐจะมากเพียงใด ไม่อาจสั่นคลอนความตั้งใจของจีนในการแก้ปัญหาไต้หวัน หรือสั่นคลอนเจตจำนงของจีน ที่จะนำไต้หวันคืนสู่มาตุภูมิอีกครั้ง” เฉิน ปินหัว โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวัน กล่าว
แม้กระทั่ง ตัวแทนของเลขาธิการสหประชาชาติ ก็ได้ออกมากล่าวย้ำว่า ไต้หวันเป็นมณฑลของจีน โดยสหประชาชาติยึดถือข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติปี 1971 ซึ่งได้รับรองข้อมติที่ 2758 กำหนดการฟื้นคืนสิทธิไต้หวันแก่สาธารณรัฐประชาชนจีน และรับรองคณะผู้แทนของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้แทนอันชอบธรรมตามกฎหมายของจีน ประจำสหประชาชาติเพียงหนึ่งเดียว
แต่การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ไต้หวัน ของ ไล่ชิงเต๋อ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2024 กลับกลายเป็นการสร้างความตึงเครียดรอบเกาะไต้หวัน เนื่องจากไล่ถูกมองว่ามีเจตนาสนับสนุนการแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน กลายเป็นผู้นำไต้หวันที่ถูกตั้งคำถามว่าเข้ามานำพาสันติภาพ หรือทำลายสันติภาพ เป็นผู้ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน หรือเปล่า?
การออกคำเตือนของจีนว่า “ใครก็ตามที่บังอาจแยกไต้หวันออกจากจีน จะต้องพบจุดจบด้วยการทำลายตัวเอง” จึงเป็นสิ่งที่ไล่ชิงเต๋อต้องตระหนักและปรับท่าทีใหม่ หากต้องการสร้างสันติภาพในไต้หวันและภูมิภาคแห่งนี้
