เลือดข้นกว่าน้ำ! เปิดสัมพันธ์จีน-ออสเตรเลีย เป้าหมายคือสันติภาพ ไม่ใช่ “สงครามเย็น”

เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน เดินทางไปเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ พร้อมเป็นประธานการประชุมประจำปีของคณะผู้นำจีน-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 9 และการประชุมโต๊ะกลมซีอีโอจีน-ออสเตรเลีย ร่วมกับ แอนโทนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย

การเดินทางเยือนครั้งนี้ นับเป็นการประกาศว่า ความสัมพันธ์จีน-ออสเตรเลีย ยังแน่นแฟ้นและผูกพันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 1750

แม้ในปี 2018 จะเกิดความขัดแย้งระหว่างจีนและออสเตรเลีย ที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างกัน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อสองประเทศ โดยเฉพาะออสเตรเลีย มูลค่าการส่งออกครึ่งหนึ่งของประเทศ มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่จีน

ความบาดหมางดังกล่าวมีต้นตอมาจาก ออสเตรเลียซึ่งเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา  มีความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของจีนในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมและเศรษฐกิจของออสเตรเลีย นำไปสู่การสั่งห้ามบริษัทโทรคมนาคมของจีน ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์สำหรับการวางโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 5G  เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ

รัฐบาลออสเตรเลียประกาศห้ามนักเรียนและนักศึกษาจีนเดินทางไปศึกษาในออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นนักเรียนและนักศึกษาต่างชาติที่มีจำนวนมากที่สุดในออสเตรเลีย ด้วยจำนวนมากถึง 200,000 คน ในปี 2019 ขณะที่จีนก็ประกาศห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากบริษัทแปรรูปของออสเตรเลีย 4 แห่ง ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 35% ของการส่งออกเนื้อวัวทั้งหมดของออสเตรเลียมายังจีน

แต่เมื่อเวลาผ่านเลย ความกังวลต่างๆก็ได้รับการพิสูจน์ว่า ความจริงกับข้อสงสัยนั้นสวนทางกัน นำมาสู่การฟื้นสัมพันธ์ดังที่ปรากฏในปัจจุบัน

หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในระหว่างการเยือนออสเตรเลียว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับออสเตรเลีย เพื่อสร้างความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านให้เติบโต มั่นคง และบรรลุผลสำเร็จ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น

หลี่ระบุว่า เมื่อมองย้อนกลับไปที่การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ออสเตรเลีย ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา  ประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาความเคารพซึ่งกันและกัน ความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง

หลี่เผยว่า จีนและออสเตรเลีย ได้เดินหน้าฟื้นฟู พัฒนาการเจรจาหารือความร่วมมือในสาขาต่างๆ  และบรรลุการพลิกฟื้นความสัมพันธ์ทวิภาคีรอบด้าน นับตั้งแต่อัลบานีส เดินทางเยือนจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับออสเตรเลียเพื่อรักษาและพัฒนาแรงขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคีเชิงบวกในปัจจุบัน ที่ได้มาอย่างยากยิ่ง

หลี่ระบุว่า ลักษณะสำคัญของความสัมพันธ์จีน-ออสเตรเลีย คือการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย มากกว่าจะเป็นความท้าทายต่อกัน

หลี่ทิ้งท้ายว่า จีนยินดีที่จะยกระดับการประสานงานและความร่วมมือกับออสเตรเลีย ในระดับภูมิภาคและระดับสากล คัดค้านการเผชิญหน้าแบบกลุ่มและ “สงครามเย็นครั้งใหม่” ยึดมั่นในการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และสร้างเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง