วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหมอกระเป๋า เปิดโรงแรมรายวันย่านสุขุมวิท อ้างตัวเป็นแพทย์ศัลยกรรม จิ้มหน้าประชาชน

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหมอกระเป๋า เปิดโรงแรมรายวันย่านสุขุมวิท อ้างตัวเป็นแพทย์ศัลยกรรม จิ้มหน้าประชาชน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ,พ.ต.อ.ชัฏฐ  นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. ปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นแพทย์ฉีดเสริมความงามให้ประชาชน

สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ขอให้ทำการตรวจสอบบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์ฉีดเสริมความงามให้ประชาชน โดยจะนัดหมายกลุ่มลูกค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก จากนั้นเปิดโรงแรมย่านสุขุมวิทใช้เป็นสถานที่ฉีดเสริมความงาม เช่น ฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อก โดยสงสัยว่าบุคคลที่ทำหัตถการให้ไม่ใช่แพทย์

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนหาข่าวพบว่ามีการนัดหมายกลุ่มลูกค้าเข้ามารับบริการฉีดเสริมความงามโดยใช้โรงแรมต่างๆ ย่านสุขุมวิทเป็นสถานที่นัดหมายสำหรับให้บริการจริง

ต่อมาวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว พบ น.ส.เจติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี แอบอ้างเป็นแพทย์หญิง ให้บริการฉีดรักษา เสริมความงามแก่ลูกค้าที่นัดหมายไว้โดยขณะนั้นมีลูกค้ารอรับบริการอยู่หลายราย จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.เจติยาฯ ไม่ใช่แพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ประกอบกับสถานที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นห้องพักในโรงแรม ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และดำเนินการสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม  น.ส.เจติยาฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 5 รายการ ได้แก่ ยาที่บรรจุในไซริ้งค์พร้อมฉีดไซริ้ง เข็ม และฟิลเลอร์สำหรับใช้ฉีดให้ประชาชน นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.

โดย น.ส.เจติยาฯ รับว่าตนไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้ ความชำนาญ อย่างแพทย์ผู้มีวิชาชีพแต่อย่างใด เรียนจบการศึกษาระดับชั้น ปวช.3 สาขาการขาย และไปศึกษากับภรรยาของหมอจีนที่พักอาศัยภายในประเทศมาเลเซีย จึงพอมีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ ประกอบกับมีความสนใจในด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และเห็นช่องทางว่ามีรายได้ดี จึงเริ่มรับงานโดยแอบอ้างตัวเป็นแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง รับฉีดวิตามินผิว ฟิลเลอร์ โบท็อก ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย โดย น.ส.เจติยาฯ จะนัดหมายลูกค้าผ่านเฟซบุ๊กครั้งละหลายราย และเปิดโรงแรมรายวันเพื่อให้บริการฉีดเสริมความงามให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะใช้จุดนัดหมายหลายจุด และเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี มีรายได้เดือนละ 20,000-40,000 บาท

การกระทำของผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นความผิดตาม
1.พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
 
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์ผู้ทำการรักษา และขั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมความงาม อย่าหลงเชื่อโปรโมชั่นหรือราคาที่เสนอต่ำกว่าคลินิกทั่วไป เนื่องจากการเสริมความงามเป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเกิดผลกระทบกับใบหน้า และร่างกายโดยตรง และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts