กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ฐากิจจ์โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ นำโดย พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ติระพัฒน์ รอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สมชาย ศรพล รอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.จำนาญ จันทร์เทศ รอง ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.เชาว์นวุฒิ เลียบมา สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4บก.ปอศ., พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ต.ไตรรงค์ หน่วยตุ้ย สว.ประจำ บก.ปอศ. พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ.
จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับเครือข่ายหลอกลงทุน Forex จำนวน 3 ราย
1.น.ส.อภิญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3847 /2567 ลง 19 สิงหาคม 2567
2.นายรัฐรุจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3849/2567 ลง 19 สิงหาคม 2567
3.น.ส.ประภากร (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี หมายจับศาลอาญาที่ 3850/2567 ลง 19 สิงหาคม 2567
พร้อมด้วยของกลาง
1.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 10 เล่ม 2.บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 6 ใบ 3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง 4.แท็บเลต จำนวน 2 เครื่อง 5.โน้ตบุ๊ค จำนวน 2 เครื่องตรวจยึดทรัพย์สิน1.Louis Vuitton กระเป๋าสะพายใบเล็กสีขาว จำนวน 1 ใบ 2.Louis Vuittonกระเป๋าสะพายสีเทา จำนวน 1 ใบ 3.Louis Vuittonกระเป๋าสะพายใบเล็กสีชมพู จำนวน 1 ใบ4.Louis Vuitton กระเป๋าสะพายใบเล็กสีขาวครีม จำนวน 1 ใบ 5.Louis Vuittonกระเป๋าสะพายใบใหญ่สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ 6.Dior กระเป๋าสะพายใบเล็กสีกรม จำนวน 1 ใบ 7. Hermes เข็มขัดหนังสีดำ จำนวน 1 ใบ 8.รถยนต์สปอร์ตยี่ห้อ โลตัส จำนวน 1 คัน 9.รถยนต์ยี่ห้อ BMW จำนวน 1 คัน 10.ทองคำแท่ง จำนวน 2 แท่งน้ำหนักรวม 7.5 บาทมูลค่ารวมประมาณ 6,000,000 บาท
ฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบ
คอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
เนื่องด้วยประมาณ เดือน ม.ค.67 กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 16 ราย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เนื่องจาก ถูกอินฟลูเอนเซอร์ TIKTOK ชื่อ YUKI เทรนเนอร์สาวขวัญใจชาวโซเชี่ยลซึ่งมียอดผู้ติดตามกว่า 1 ล้านราย ชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (FOREX) เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า บัญชีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดีย TIKTOK ชื่อ YUKI คือ น.ส.อภิญญาฯ ซึ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านการออกกำลังกาย มียอดผู้ติดตามจำนวนมากทางโซเชียลมีเดียกว่า 1 ล้านราย ได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรด FOREX ผ่านแอพพลิเคชัน TIKTOK, INSTAGRAM, YOUTUBE, LINE FACEBOOK โพสต์ชักชวนลงทุน ในเว็บไซต์บริษัท WWW.SULFVER.COM โดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนของประเทศอังกฤษให้ผลตอบแทนสูงเฉลี่ยร้อยละ 84-96 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ เมื่อสนใจร่วมลงทุน จะมี
การส่งรายละเอียดและคลิปเสียงแนะนำการลงทุน ผ่านโปรแกรมซูม (ZOOM) จากการตรวจสอบพบว่าคดีนี้มีผู้ร่วมกระทำความผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ได้แก่ นส.อภิญญาฯ, นายรัฐรุจน์ฯ, น.ส.ประภากรฯ, นายศิวัชฯ เป็นผู้
ชักชวนลงทุน ผ่านเว็บไซต์ SULFVER.COM และให้โอนเงินไปลงทุนผ่านบัญชีธนาคาร นายสันติสุขฯ โดยช่วงแรกของการลงทุนผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนตามที่โฆษณาจริง แต่ต่อมาไม่มีการจ่ายผลตอบแทนและเว็บไซต์ได้ปิดตัวลง จากการตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวไม่มีอยู่จริง และบริษัท SULFVER ไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งไม่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)
พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ทั้ง 5 ราย และจากการตรวจสอบพบว่านายศิวัชฯ และนายสันติสุขฯ ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนอยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำทั้งสองราย ต่อมาในวันที่ 20 ส.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.4 บก.ปอศ.ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น
จำนวน 3 จุดในพื้นที่ กทม. และจังหวัดนครปฐม โดยสามารถจับกุม น.ส.อภิญญาฯ ได้ที่คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านบางซื่อ กทม. จับกุมนายรัฐรุจน์ฯ ได้ที่คอนโดหรูย่านรัชโยธิน และจับกุม น.ส.ประภากรฯ ได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด และตรวจยึดทรัพย์สินมีค่าจำพวกรถยนต์หรูจำนวน 2 คัน สินค้าแบรนด์เนม จำนวน 7 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 6,000,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามคำให้การ ผู้ต้องหาทั้งสามรายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าได้ชักชวนผู้เสียหายลงทุนจริง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อการลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศหรือเทรด (Trade) ค่าเงิน (FOREX หรือ FX หรือ Foreign Exchange) โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งตามกฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินตราต่างประเทศต้องทำกับผู้ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้น เช่น ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อของผู้ได้รับใบอนุญาตได้ทางเว็บไซต์ของ ธปท. (www.bot.or.th) ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่เคยให้ใบอนุญาตแก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่ธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ในการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทางอินเทอร์เน็ตแต่อย่างใด