สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้รับการประสานข้อมูลจากสำนักงานตำรวจสืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (Federal Bureau of Investigation) หรือ FBI กรณีมีบริษัทผู้ให้บริการอีเมล์ชื่อดัง ได้รายงานข้อมูลสำคัญผ่านทางศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NATIONAL CENTER FOR MISSING & EXPLOITED CHILDREN) หรือ NCMEC ว่าได้ตรวจพบบุคคลอัปโหลดภาพและวิดีโอสื่อลามกอนาจารเด็กในระบบคลาวด์จำนวนมาก โดยบุคคลดังกล่าวล็อกอินมาจากพื้นที่ประเทศไทย จึงประสานความร่วมมือมายังตำรวจไซเบอร์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดดังกล่าว เนื่องจากเป็นนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญและเป็นการช่วยเหลือเด็กที่อาจถูกล่วงละเมิด โดย กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 สามารถทำการพิสูจน์ทราบข้อมูลบุคคลผู้ใช้บัญชีอีเมล์ดังกล่าวได้
ต่อมา ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 จึงได้นำชุดสืบสวนลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นเป้าหมายได้สำเร็จ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกันนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดจันทบุรีที่ 131/2567 ลงวันที่ 30 ส.ค.67 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านเดอะเซน หมู่ 7 ต.เกาะขวาง อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี พบนายมนัส อายุ 32 ปี บุคคลเป้าหมายอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Xiaomi รุ่น Xiaomi 12 Pro จำนวน 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ MSI รุ่น GE62 6QD Apache Pro จำนวน 1 เครื่อง และ เครื่องบรรจุข้อมูล (Hard Disk External) ยี่ห้อ Seagate® One Touch ความจุ 5 TB จำนวน 1 อัน อยู่ภายในห้องนอน เมื่อตรวจสอบข้อมูลที่บรรจุภายในอุปกรณ์ดังกล่าว พบว่ามีคลิปลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก
เบื้องต้น นายมนัส รับว่าอุปกรณ์ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบเป็นของตนเองจริง โดยตนมีอาชีพเป็นพนักงานขายโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในจันทบุรี และเพิ่งซื้อบ้านและย้ายเข้ามาอยู่กับแฟนสาวซึ่งเป็นพยาบาลได้เพียง 1 เดือน โดยตนแค่มีรสนิยมทางเพศในการชอบสะสมคลิปโป๊เด็ก ไม่ได้นำไปขายหรือส่งต่อให้แก่ผู้อื่นแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเอง” พร้อมนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
