สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พ.ต.ท.พิชิตไชย สังข์รัตน์ รอง ผกก.1 บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 5 – 14 ก.ย. 67 (รวม 10 วัน)
ต่อมาได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีมีคนปล่อยเงินกู้ให้กับประชาชนทั่วในพื้นที่รับผิดชอบ คือ น.9 จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ปล่อยเงินกู้ดังกล่าวมาพักอาศัยอยู่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงดำเนินการวางแผนเป็นผู้ขอกู้ยืมเงินติดต่อขอกู้เงินจากบัญชีไลน์ชื่อ “เงิน” พบว่าสามารถขอกู้ยืมเงินได้จริง โดยได้ขอกู้ยืมเงินเป็นจำนวน 15,000 บาท ซึ่งจะต้องชำระเงินเป็นงวดๆละ 750 บาทต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 24 วัน รวมจำนวนเงินที่จะต้องชำระหนี้กู้ยืมเงินดังกล่าวนี้ เป็นจำนวน 18,000 บาท มีการเรียกเก็บเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเงิน จำนวน 3,000 บาท เมื่อคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยจะเท่ากับ ร้อยละ 20 ต่อจำนวน 24 วัน หรือคิดเป็นร้อยละ 304.167 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาลจังวัดธัญบุรี เพื่อขอหมายค้น ค้นสถานที่บ้านพักแถวย่าน จ.ปทุมธานี
ต่อมาวันที่ 11 กันยายน 2567 ได้นำหมายค้นของศาลเพื่อทำการตรวจค้นพบนายณรงค์ศักดิ์ ฯ บ้านพักแถวย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากการตรวจค้น พบของกลาง หน้าแอปพลิเคชั่นไลน์ที่ นายณรงค์ศักดิ์ ฯ ผู้ต้องหาใช้เชิญชวนลูกค้าให้มากู้เงิน จำนวน 2 แผ่น
เบื้องต้น นายณรงค์ศักดิ์ฯ ผู้ต้องหารับว่าตนเองได้หาเงินทุนมาเพื่อให้ผู้อื่นกู้จริง โดยจะให้โอนเงินต้นคืนเข้ามายังของตนเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ นายณรงค์ศักดิ์ฯ ทราบ แล้วทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาตามหมายเรียก ในฐานความผิด ดังนี้ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน
“ร่วมกันจัดหามาซึ่งเงินทุนแล้วให้ผู้อื่นกู้เงินนั้น ฯ ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ข้อ.5 โทษตาม ข้อ 16”