—————-
สวนผลไม้ใต้ ในมือ “นายทุนจีน”
——————
ช่วงนี้…แทบจะไม่ได้ใส่ใจ กับข่าวตามกระแส
ใครจะไปขึ้นช้าง ขี่ม้า ใช้ชีวิตบนหลังเสือ หรือ พวกเทวดา-นางฟ้า นักการเมือง นักกฏหมาย
ที่ใช้วิชาชีพนอกรีด จนร่ำรวยล้นฟ้า…
แล้วมานั่งลอยหน้า ได้เงินมามากมาย นับร้อยๆล้าน
“เขาให้มาด้วยความเสน่หา”
เราไม่ได้สนใจ เพราะรู้อยู่ว่า…พวกทะแนะเหล่านั้น มันคือ “พวกมิจฉาชีพ” มีช่องทางเลือก เข้าถึง “คนรวยสีเทา”ได้อยู่แล้ว
ก็ใช้ช่องทางกฏหมาย เอามาฟอกขาว หลอกพวก “ร่ำรวยผิดปรกติ” ตกเป็นเหยื่อ สืบทอดกันไป
รวยทันตาเห็น…แล้วเดินคอตกเข้าคุก ไม่กี่ปีก็หลุดออกมา รกสังคมต่อไป
เราหันมามอง การใช้ชีวิตที่ มั่นคง ยั่งยื่น…ตามแนวทาง ขยัน อดทน เป็นทางเดินและทางเลือกเดียวของสุจริตชน…ดีกว่ามั้ย??
เพราะถ้าทุกคนเข้าใจ เข้าถึง จุดนั้น ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป…ในยุคสมัยใหม่ ไม่ค่อยจะมีใครคิดตาม สิ่งดีงามเหล่านี้มากนัก
มองไปก็เห็นความสำเร็จในอาชีพ ชาวสวน ของพี่น้องชาวใต้แล้ว ก็เกิดความสุขตามพวกเขาไปด้วย
ที่มาของความสำเร็จ คือความอดทนขยัน ทำกิน บนที่ดินแปลงเล็กแปลงน้อยของตนเอง
แม้จะเหนื่อยยาก แต่ผลผลิตที่ลงทุนลงแรง เขาได้นำไปเสริมสร้างการศึกษา กับลูกๆ จบปริญญาทุกคน
บางครอบครัว…ส่งลูกเรียนสายนิติธรรม เป็นทนายความ ผู้พิพากษา เป็นหน้าเป็นตาของพ่อแม่
นักการเมืองท้องถิ่น คอยอาสาช่วยเหลือสังคม…ก็เกิดจากสายเลือดเดียวกัน
เป็นเจ้าของสวนธุรกิจใหญ่โต…ก็มาจากความสำเร็จ ที่พ่อ-แม่ ลงแรงกาย แรงใจ เป็นต้นทุน ส่งถึงที่หมายปลายทาง
คือ…สิ่งตอบแทน ความภาคภูมิใจ ไว้กับวงศาคณาญาติ
ถามพวกเขาว่า….ลูกๆที่จบการศึกษา เขากลับมาทำไร่ทำสวน มรดกที่พ่อแม่สร้างไว้หรือไม่?
“ส่วนใหญ่เขามีครอบครัว มีงานการทำ รายได้ดีกว่ามานั่งทำสวน ที่ต้องกรำแดดกรำฝน…”
“แต่บางคน…เขาก็กลับมาลงทุน จ้างแรงงานพม่า มาดูแล เพราะงานประจำที่ทำอยู่ เป็นอนาคตของเขาเหมือนกัน”
นี่ไง…เรื่องที่น่าห่วง หลังพ่อแม่แก่ชะรา หมดแรงดูแลสมบัติ ก็ต้องโอนย้ายให้ลูกหลาน
ที่ดินทำกินเหลือน้อยลง…ราคาสูงขึ้น พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว ก็ถูกเปลี่ยนมือไป อยู่กับนายทุนจีน
แผ่นดินทำกินของบรรพบุรุษที่จะเหลือไว้ในมือ “คนไทย” ในภาคใต้…ซักกี่ราย
ปัจจุบันนี้..นายทุนจีนเข้ายึดธุรกิจ สวนผลไม้ไทยทุกชนิด แทบเกลี้ยงแล้วครับ.