จับตากลยุทธ์ CHINA 2025 หนุนส่งออกสินค้าบริการ แพลตฟอร์ม การท่องเที่ยว เฮลท์แคร์ ผลิตหนัง-ละคร ขายทั่วโลก ผ่านยุทธศาสตร์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ บรรยายพิเศษ “พัฒนาการและอิทธิพลของทุนและสินค้าจีนในตลาดโลก” จัดโดย สมาคมสื่อมวลชนไทย-จีน ฉายภาพเศรษฐกิจจีนที่โตรวดเร็วมาก ในปี 1878-1879 เติ้งเสี่ยวผิง ดำเนินนโยบายเปิดประเทศ จีดีพีของสหรัฐอเมริกาใหญ่กว่าจีน 15 เท่า ผ่านมาแค่ 4 ทศวรรษ เศรษฐกิจจีนไล่จี้อเมริกา จีดีพีจีนโตถึง 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ของอเมริกา 25 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ในปี 2001-2002 จีนเริ่มเข้า WTO จีดีพีญี่ปุ่นใหญ่กว่าจีน 4 เท่า ปัจจุบันจีดีพีจีนใหญ่กว่าญี่ปุ่น 4 เท่า และหากนำจีดีพีประเทศเอเชีย 30 ประเทศมารวมกัน ขนาดจีดีพีรวมกันแค่ 16.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ น้อยกว่าจีนประเทศเดียว
ขณะที่การลงทุนของจีนในต่างประเทศ ปี 2002 ประมาณ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ 5 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยการลงทุนของจีนในต่างประเทศเกิน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี การลงทุนสะสม 2 ทศวรรษ 2.75 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนบริษัทจีนลงทุนในต่างประเทศ 4.7 หมื่นบริษัท ใน 190 ประเทศ ขณะที่การลงทุนผ่านโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” 1.6 หมื่นบริษัท หรือ 1 ใน 3 ของบริษัทจีนที่ลงทุนทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม แม้จีนจะเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก แต่ในช่วงที่ผ่านมาจีนพึ่งพาสินค้าอุตสาหกรรมมากถึง 40% ปัจจุบันจีนจึงพยายามลดการพึ่งพาภาคอุตสาหกรรม หันไปสนับสนุนสินค้าบริการมากขึ้น เช่น การให้บริการแพลตฟอร์ม การท่องเที่ยว เฮลท์แคร์ ผลิตหนัง-ละคร ส่งออกไปขายทั่วโลก ทำให้ไทยต้องเตรียมปรับตัวเพื่อหันมาสร้างงานบริการค้าขายกับจีนมากขึ้น