วันพุธ, มกราคม 8, 2025
หน้าแรกต่างประเทศจีนอเมริกา..กุมขมับ! หวังใช้ “สงครามการค้า” อัด “จีน” กลายเป็นหนุนทำ “ชิป” เขย่าโลก

Related Posts

อเมริกา..กุมขมับ! หวังใช้ “สงครามการค้า” อัด “จีน” กลายเป็นหนุนทำ “ชิป” เขย่าโลก

ย้อนหลังกลับไปก่อนเกิดสงครามการค้า ในปี 2018 อุตสาหกรรม “ชิป” หรือ “เซมิคอนดักเตอร์” ซึ่งเปรียบเสมือน “สมอง” ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีน เป็นรองอเมริกาอยู่หลายช่วงตัว แต่เมื่อสงครามการค้ายุคทรัมป์ 1.0 ลามสู่ สงครามเทคโนโลยี ทำให้จีนต้องเผชิญกับแรงบีบคั้น จนต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมของตัวเอง ให้มากยิ่งขึ้น จนปัจจุบันกลายเป็นตลาดผลิตชิปใหญ่ที่สุดในโลก ข้อมูลของ SEMI ชี้ว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนได้ทุ่มเงินจำนวนมหาศาล ในการพัฒนาและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผลิตชิป  เพื่อเร่งการเติบโตอุตสาหกรรมชิปในประเทศ

รายงานของ Nikkei Asia พบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2024 จีนทุ่มเงินลงทุนซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตชิป มากกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าเกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริการวมกัน

นอกจากนี้ จีนยังตั้งเป้าที่จะทุ่มเงินอีกมหาศาล เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ในอนาคต และคาดว่าทั้งปี 2024 จะใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จีนยังเป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีแร่ธาตุหายาก (Rare Earth Element: REE) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ ที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ คิดเป็นประมาณ 95% ของการผลิตทั้งโลก ขณะที่ประเทศอื่นอย่างสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเมียนมา แม้จะมีแหล่งสำรองแร่หายากเช่นกัน แต่ประเทศเหล่านี้ ไม่ได้มีเทคโนโลยีในการสกัดแร่เหล่านี้ ได้ดีเทียบเท่าจีน หรือมีแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ต้นทุนในการได้มาซึ่งแร่เหล่านี้ ถูกเท่ากับที่จีนทำได้ นั่นหมายความว่าในอนาคต นอกจากการผลิตชิป เพื่อใช้สำหรับอุตสาหกรรมในประเทศ จีนอาจกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก เพราะมีความได้เปรียบด้านทรัพยากรธรรมชาติ และต้นทุนการผลิต

การลงทุนอุตสาหกรรมชิปของจีน ไม่ได้มีแค่บริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น แต่บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ก็มีการลงทุนด้านนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนของทั้งประเทศ สูงขึ้นตามไปด้วย  ขณะเดียวกัน จีนยังเป็นแหล่งเงินทุนหลัก ของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ผลิตชิปหลายราย จากรายงานงบประมาณ ไตรมาสล่าสุด ของแต่ละบริษัทพบว่า จีนเป็นแหล่งรายได้ของ Applied Materials กว่า 32% Lam Research 39% และ KLA กว่า 44% ด้าน Tokyo Electronองญี่ปุ่นก็มีรายได้จากจีนมากถึง 49.9% ในขณะที่ ASML ของเนเธอร์แลนด์ มีสัดส่วนรายได้ที่มาจากจีนที่ 49%

การเดินหน้าทุ่มทุนมหาศาล ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน หากนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา จีนทำให้อุตสาหกรรมนี้ โตขึ้นแล้วกว่า 15% เผยให้เห็นว่าจีน กำลังหายใจรดต้นคอบริษัทผลิตชิปชั้นนำอย่าง ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริ่ง โค. หรือ TSMC เพียง 3 ปี แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีน จากกรณีสหรัฐพยายามจะหยุดยั้งจีน ในการพัฒนาชิปล้ำสมัย

ถึงนาทีนี้ จีนอาจขอบคุณ “สงครามการค้า” ที่บีบคั้นให้การพัฒนาอุตสาหกกรรม “ชิป” ทะยานไปไกลเกินคาด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts