“จีน” จวก “ทรัมป์” เห็นภาษีดีกว่ามิตรภาพ ความพ่ายแพ้คือตำตอบจากสงครามการค้า

เป็นไปตามคาด ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive orders) ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 10% รวมถึงเม็กซิโกและแคนาดาที่ 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ก.พ. 2025

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาระบุถึงเรื่องนี้ว่า จีนไม่เห็นด้วย และคัดค้านการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่กำหนดการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม ร้อยละ 10 กับสินค้านำเข้าจากจีน โดยจีนจะดำเนินมาตรการตอบโต้อันจำเป็น เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของจีน

โฆษกกระทรวงฯ เน้นย้ำจุดยืนของจีนนั้นมั่นคงและไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ “ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า และสงครามภาษีศุลกากร” โดยการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ละเมิดกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (WTO) อย่างร้ายแรง โดยไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในของสหรัฐฯ และไม่ได้เป็นประโยชน์กับฝ่ายใด รวมถึงโลก

ส่วนการใช้ปัญหาเฟนทานิล เป็นข้ออ้างในการขึ้นภาษี 10% ซึ่งจีนไม่พอใจอย่างยิ่ง และคัดค้านอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีนโยบายปราบปรามยาเสพติด ที่เข้มงวดและดําเนินการอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุดในโลก

ต้นเหตุของวิกฤตเฟนทานิลของสหรัฐฯ อยู่ที่สหรัฐฯ เอง การโยนความผิดโทษประเทศอื่น ไม่ใช่การแก้ปัญหา สหรัฐฯ จำเป็นต้องทบทวนและแก้ไขปัญหาเฟนทานิลของตนเอง อย่างปราศจากอคติ และมีเหตุมีผล มากกว่าใช้มาตรการทางภาษีศุลกากร มาข่มขู่คุกคามตามอำเภอใจ ซึ่งจะทําลายรากฐานความร่วมมือ และความไว้วางใจในด้านการต่อต้านยาเสพติด ระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างรุนแรง

ขณะที่การจัดเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ จะผลักดันให้สหรัฐฯถูกโดดเดี่ยวในเวทีการค้าโลก  โดยหลายประเทศเตรียมร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก ถึงความไม่เป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว