America First หรือ อเมริกาต้องมาก่อน อาจฟังดูดีในความรู้สึกของคนอเมริกัน แต่ในทางกลับกัน มันอาจกลายเป็น “ระเบิดพลีชีพ” ของอเมริกา..หรือเปล่า?
เพราะนัยยะของนโยบายดังกล่าว แสดงให้เห็นถึง “การเลือกปฏิบัติ” ระหว่างบริษัทของสหรัฐฯ กับบริษัทของชาติอื่น
หนึ่งในความจริงซึ่งเริ่มสะท้อนออกมาคือ คนอเมริกันเองก็เริ่มไม่มั่นใจว่านโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือเปล่า
การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากทั่วโลก ด้านหนึ่งทำชาวสหรัฐฯต้องซื้อสินค้าในราคาสูงขึ้น และนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ
ตามข้อมูลขององค์กรวิจัยเศรษฐกิจอิสระ The Conference Board พบว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันในเดือนม.ค. 2568 สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯในปัจจุบันและอนาคต โดยสะท้อนผ่านนโยบายของรัฐบาลใหม่ นั่นหมายความว่า “ชาวอเมริกันรู้สึกไม่ดีต่อปัญหาเงินเฟ้อ”
ในขณะที่การจำกัดการลงทุนของบริษัทสหรัฐฯในจีน และการใช้มาตรการเข้มงวดกับบริษัทจีนที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งกรณีที่สหรัฐฯ ต้องไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ถึงผลลัพธ์ ได้-เสีย
เนื่องจากมีการส่งสัญญาณจากสมาคมธุรกิจ และบริษัทหลายแห่งในสหรัฐฯ ที่แสดงความวิตกกังวลว่า การจำกัดการลงทุนของสหรัฐฯ ในจีน จะนำไปสู่สถานการณ์สูญเสียตลาดจีน ให้คู่แข่งรายอื่นๆ
เช่นเดียวกับนโยบาย America First Investment Policy ได้ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามปกติ ระหว่างบริษัทจีนและสหรัฐฯ อย่างร้ายแรง เนื่องจากเป็นการเลือกปฏิบัติ และทำลายกลไกตลาดแบบเสรี
การกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการเพิ่มความเข้มงวดของการตรวจสอบ ทบทวนความปลอดภัย ด้วยการมุ่งเป้าไปยังการลงทุนจากจีน จะทำลายความเชื่อมั่นของบริษัทจีน ต่อการลงทุนในสหรัฐฯ อย่างร้ายแรง
การปฏิบัติอันไม่สมเหตุสมผล จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนทวิภาคีเพิ่มขึ้น และจะไม่เป็นผลดีต่อสหรัฐฯ เองด้วย