ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของนโยบายภาษีตอบโต้ของ “ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์” ก่อความประหวั่นพรั่นพรึงไปทั่วโลก กับคำพูด “อเมริกาต้องมาก่อน”
ขณะที่มหาอำนาจขั้วโลกตะวันออกอย่าง “จีน” มอง “ประชาคมร่วมอนาคต” ต้องอยู่เคียงข้างกันในทุกสถานการณ์ เดินหน้าอย่างมั่นคง สร้างอนาคตแห่งการพัฒนา ความเจริญรุ่งเรืองและสันติภาพร่วมกัน
สีจิ้นผิง พิสูจน์บทบาทการสร้าง “สนามการค้า” แบบเท่าเทียมกัน ผ่านการเดินสายพบผู้นำ 3 ประเทศอาเซียน คือ เวียดนาม มาเลเซีย และ กัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-18 เมษายน ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน–อาเซียน ได้รับการพิสูจน์ว่าแข็งแกร่ง แม้เผชิญวิกฤตการเงิน วิกฤตโควิด-19 และการต่อต้านโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ จีนยังคงสนับสนุนความเป็นเอกภาพของอาเซียน บทบาทนำของอาเซียนในภูมิภาค และการยกระดับเขตการค้าเสรีจีน–อาเซียน เวอร์ชัน 3.0
สีจิ้นผิง ยืนยันว่า ประเทศจีนเปิดกว้างให้สินค้าคุณภาพสูงจากอาเซียน เข้าถึงครอบครัวชาวจีนมากขึ้น เช่นเดียวกับสินค้าของจีน ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ในกลุ่มประเทศอาเซียน จีนยังคงเดินหน้าเปิดประเทศ ร่วมแบ่งปันโอกาสการพัฒนา สนับสนุนเสถียรภาพของเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก ผ่านความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
“ความสามัคคีคือพลัง” ผู้นำจีนกล่าวและว่า ความร่วมมือคือหนทางสู่ความสำเร็จ แม้ต้องเผชิญความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ ลัทธิต่อต้านการค้าฝ่ายเดียว ความร่วมมือของจีนและอาเซียนที่แข็งแกร่ง มั่นคง จะสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้นำอาเซียน




ขอบคุณภาพประกอบจากซินหัว