
ป่า…สัตว์ป่า กับ…สัตว์มนุษย์
เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว…พวกเราคงได้รับความรู้สึกดีๆไปกับธรรมชาติ ที่มีทั้งหนาวและเย็น สบาย ๆ ได้นานกว่าทุกๆ ปี
แม้มีมลพิษ Pm2.5 ผสมเข้าสู่โพรงจมูกบ้าง ก็ถือได้ว่า เรายังมีธรรมชาติเข้ามาช่วยบำบัดไว้…ก็ยังดี
ที่เคยร้อนทั้งปีทั้งชาติ ผ่านมาและผ่านไป…หลายฤดู
ผมจัดเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เตรียมตัวเดินทางกลับ กทม….ก็ยังพอมีเวลานั่งทบทวนถึง ร่องรอยที่เหลือ จากอดีตสู่ปัจจุบัน พอมอเห็นได้บ้าง
แสงแดดยามเช้า ที่พอคลายหนาวเย็น ที่ผ่านชานเรือน มองไปรอบๆ บ้าน…เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
เพลิดเพลินไปกับความคุ้นเคยในพื้นที่แห่งนี้มาก่อน ยังพอได้เห็นต้นไม้จากมือเรา และ ธรรมชาติจัดให้ไว้นานแล้วนานแล้ว
กลิ่นหอมตามสายลมโชยมา…ใช่คือ “พญาสัตยาบัน” อายุกว่า 20 ปี มีดอกเต็มต้น
ที่มาของกลิ่นธรรมชาติผสมกลมกลืนกลางป่า…พอเก็บเกี่ยวได้
โน่น…เถาวัลย์พันเกี่ยวเลี้ยวลด ออกช่อดอกเหมือนมีใครไปประดับไว้ ตามเนินเขา บานสะพรั่งหลังร้อนจัด
“พญาเสือโคร่ง” นั่นเอง
ต้นอินทนิล เป็นไม้ยืนต้น ดอกชมพูอมม่วง เมื่อ 20 ปีก่อน มีชาวบ้านหามาปลูกให้
“ปลูกไว้ให้เทวดาและนางฟ้าผ่านมาชื่นชม…ป้องกันพวกผีสางนางไม้มาใช้พื้นที่ “ลมพัดลมเพ” จะไม่ถึงตัวเรา”
ชาวบ้านเชื้อสายกะเหรี่ยง…เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ที่ไม่มีใครกล้าลบหลู่
กับต้นตะเคียนทอง และตะเคียนเลือด เป็นไม้ป่าที่ไม่มีใครกล้าไปตัดทิ้ง…ก็ยังอยู่ครบถ้วน
ไม้ดอกยืนต้น ส่งกลิ่นหอม เหมือนกลิ่นยาสมุนไพร อาจารย์หมอเณร ไปปลูกไว้ ก็ยังไม่มีใครไปโค่นทิ้ง
เดินดมกลิ่นไปกับอากาศยามเช้า…
หน้าหนาว หน้าฝน หน้าร้อน เรามีเพื่อนแท้คือ “ธรรมชาติ” ยืนอยู่ข้างตัวตลอดมา
ที่หายไป…ไม่เหลือกลับมาให้เราเห็นอีกเลย “นกเหงือก” ที่จับคู่บินมาสร้างรัง…
ไก่ป่า…เคยลงมาจีบเอาไก่บ้านของเราที่เลี้ยงไว้ ไปผสมพันธุ์ ข้างๆบ้านลิง-ค่าง กระโดดไป-มาตามต้นไม้ หมดไปแล้ว
แม้ “ชะนี” ที่ส่งเสียงเรียก “ผัวๆๆๆ” ดังก้องป่า ก็ไม่ได้ยินเสียงเรียกหาผัวอีก
มนุษย์ใจร้ายกระหายหิว มันไล่ล่าดักยิง ดักฆ่า ไปกิน…หมดไม่เหลือไว้เลย
เป็บบริบทแห่งความหลากหลายในวิถีชีวิต ของมนุษย์ ที่มารวมอยู่กับคนใจสัตว์
เราคงไม่เรียกร้อง ขอกลับคืนมาอีกหรอก ให้พวกเขาไปผุดไปเกิดในภพภูมิที่ดีด้วยเถิด
สำหรับผม ออกจากป่าธรรมชาติ กลับมา รวมอยู่ในหมู่มวลมนุษย์ ที่ต่างต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ในเมืองหลวงต่อไปครับ…เจ้านาย.