ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. นำตัว นางพชรพร หรือ เตย อายุ 52 ปี และพันจ่าเอกฉัตรชัย หรือจ่าชัย อายุ 56 ปี สองสามีภรรยา คนสนิท นายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ถูกจับได้ที่ค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนาวัดไร่ขิง
เมื่อวานนี้ หลังถูกในคดีสนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัด ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ ซึ่งทั้งสองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่จึงพิจารณาส่งตัวฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัวนางสาวเตย และพันจ่าเอกฉัตรชัยไปส่งฝากขัง ทั้งคู่ใส่หน้ากากอนามัยเนื่องจากติดโควิด ถูกคุมขังแยกห้องชายหญิง มีอาการค่อนข้างอ่อนเพลีย และมีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าทั้งคู่ทานข้าวที่เจ้าหน้าที่จัดให้ได้ปกติ แต่นางพชรพร มีอาการท้องเสีหลายครั้งและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถไปโดยทันที
ทั้งนี้มีพนักงานลูกจ้างที่ทำงานกับเตย ได้นำยาพารา เบาหวาน ความดัน มาให้กับทั้งคู่ พร้อมเปิดเผยสั้นๆว่า ได้เข้าไปทำงานกับทั้งคู่และศรัทธาอดีตเจ้าอาวาส ไม่เชื่อว่าจะมีการยักยอกเงินวัด เพราะการใช้ชีวิตปกติไม่ได้กินหรูอยู่สบาย และเขาก็มีธุรกิจหลายอย่างน่าจะมีรายได้จากตรงนั้น รวมถึงมักจะถูกหวยบ่อยๆ ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้านบาท ส่วนภาพที่มีการโพสต์โชว์เงินตนเองไม่ทราบเรื่อง
ส่วนกระแสข่าวเรื่องจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตเจ้าอาวาสหรือไม่ เรื่องนี้ก็ไม่เชื่อ เพราะตลอดเวลาจะเห็นเตย – ฉัตรชัย อยู่ด้วยกันตลอดเวลาเข้าไปหาอดีตเจ้าอาวาส
ส่วนเรื่องการดูแลร้านค้าในงานประจำปีวัด จะมีคณะกรรมการวัดดูแลจึงไม่น่าจะยักยอกเงินวัดแต่อย่างใด
ด้านพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองยังไม่ความร่วมมือหรือยินยอมให้การใด ๆ กับตำรวจ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนทรัพย์สินทั้งหมดที่ตรวจสอบได้ทั้งบ้าน รถ อ้างว่าได้มาจากการหารายได้เป็นเงินของตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกับเงินที่นายแย้ม ยักยอกมา ซึ่งคำให้การไม่สอดคล้องกับรายได้ในการประกอบอาชีพตามที่กล่าวอ้าง

