นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ’ทนายอั๋น‘เตรียมพานางมาลี พุ่มเรือง มารดาของนายวิชัย พุ่มเรือง นักโทษประหารในคดีร่วมกันฆ่านางสาวสายันต์ จันทา และนายพิพัฒน์ ตั้งพงษ์ทอง สองสามีภรรยาเจ้าของตลาดสายันต์ในตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว เข้าพบ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานใหม่ให้ตรวจสอบ ก่อนที่จะนำหลักฐานเหล่านี้ยื่นต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาคำร้องขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 โดยศาลจังหวัดสระแก้วได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 โดยในส่วนของ นายวิชัย พุ่มเรือง จำเลยที่ 1 ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้ ประหารชีวิต เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดสนับสนุนยืนยันที่อยู่ของจำเลยในช่วงเวลาเกิดเหตุ ทำให้ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานของอัยการและโจทก์ร่วมที่ระบุว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกับพวกใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายทั้งสองจนถึงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
นอกจากนี้ ร้อยเอกสุเทพ มากสาคร หรือ นายก “เต่า” (อดีตนายกเทศมนตรีตำบลคลองหาด) และ ร้อยเอกทองวรา มากสาคร (อดีต ส.จ. น้องชายของนายกเต่า) ซึ่งเป็นจำเลยที่ 4 และ 5 ก็ถูกศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ ประหารชีวิต เช่นกัน ส่วนนายวิชิต อินทร์แก้ว จำเลยที่ 3 ถูกจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่นางมณีรัตน์ โกทันย์ จำเลยที่ 6 ถูกยกฟ้อง และจำเลยที่ 2 เสียชีวิตระหว่างพิจารณาคดี
ครอบครัวและอดีตภรรยาของนายวิชัยได้ร้องขอให้ทนายอั๋นช่วยเหลือในการรื้อฟื้นคดี เนื่องจากเชื่อมั่นว่านายวิชัย บริสุทธิ์และไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมดังกล่าวเลย โดยนายวิชัยได้ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้ร่วมกระทำผิด ยอมรับสารภาพเพียงคดีอาวุธปืนลูกซองที่ภรรยาของจำเลยที่ 5 ให้ไว้เฝ้าสวนลำไย ซึ่งอาวุธสังหารผู้ตายทั้งสองเป็นอาวุธมีดเท่านั้น
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ทำให้ญาติเชื่อว่าคดีนี้มีความไม่ชอบมาพากลคือ
พยานที่ชี้ตัวจากลักษณะท่าทางที่นายวิชัยตกเป็นจำเลยที่ 1 เนื่องจากมีท่าเดินขาโก่งและมักห้อยพวงกุญแจไว้ที่หูกางเกงด้านซ้าย คล้ายคนร้ายคนหนึ่งในคลิปวงจรปิดที่ใส่เสื้อมีฮู้ดปิดบังใบหน้า โดยมีพยานชี้ตัวว่าน่าจะเป็นนายวิชัย ขาดหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และคำซัดทอดไม่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่เชื่อมโยงนายวิชัยกับที่เกิดเหตุ และไม่มีจำเลยคนใดในคดีนี้ซัดทอดว่านายวิชัยร่วมกระทำผิดเลย
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าน่าจะมีการสร้างพยานเท็จ ที่ญาตินายวิชัย เพิ่งทราบและได้รับหลักฐานเพิ่มเติมภายหลังว่ามีการสร้างพยานมาให้การเท็จ เพื่อให้ศาลเชื่อว่านายวิชัยมีส่วนร่วมกระทำผิดจนถูกตัดสินประหารชีวิต
ญาติมีหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นการวางแผนสร้างพยานเท็จ โดยปรากฏเจ้าหน้าที่รัฐ ทนายความชื่อดัง (ซึ่งปัจจุบันถูกดำเนินคดีและคุมขังอยู่ในเรือนจำ) ผู้ติดต่อประสานจำเลยที่ 6 เข้ามอบตัวกับตำรวจที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อ 7 สิงหาคม 2561
นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงการสนทนาตกลงผลประโยชน์กันระหว่างผู้ประสานจำเลยและทนายความ ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ได้มาในภายหลังศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิตจำเลยที่ 1 แล้ว
ความหวังในการรื้อฟื้นคดี
ทนายอั๋นกล่าวว่า หลักฐานใหม่ที่ญาตินำมาให้ เช่น คลิปเสียง คลิปวิดีโอ สลิปการโอนเงิน และเอกสารการถอดเทปเสียงสนทนา เป็นหลักฐานที่น่าสนใจมากและไม่เคยปรากฏในสำนวนคดีมาก่อน ซึ่งหลักฐานเหล่านี้อาจพิสูจน์ได้ว่านายวิชัยไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในคดีนี้
“ตนเชื่อว่าพยานหลักฐานที่นำขึ้นสู่ศาลอาจถูกปั้นแต่งขึ้นมาอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญในการขอรื้อฟื้นคดีอาญาตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526”
นางสาวจุฑามาศ พี่สาวของนายวิชัย และนางสาวน้ำผึ้ง อดีตภรรยาของนายวิชัย ต่างยืนยันในความบริสุทธิ์ของนายวิชัย โดยนางสาวน้ำผึ้งระบุว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุ นายวิชัยอยู่กับเธอที่บ้านซึ่งเปิดเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ และมีญาติพี่น้องหลายคนเป็นพยานได้ แต่ตำรวจไม่เคยเรียกไปสอบปากคำเลย พวกเธอหวังว่าการยื่นหลักฐานใหม่ครั้งนี้จะนำมาซึ่งความเป็นธรรมให้กับนายวิชัยที่ถูกคุมขังในเรือนจำด้วยโทษประหารชีวิต ทั้งที่เชื่อว่าเขาไม่ได้กระทำผิด









