จีนยังเป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทย และยังสำคัญมากขึ้นในอนาคต การที่รัฐบาลทรัมป์ตั้งกำแพงภาษี 36% นอกจากเหตุผลเพื่อลดการขาดดุลการค้า สาเหตุหลักน่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง หากข้อเสนอที่แท้จริงของสหรัฐอเมริกา เป็นเรื่องที่กระทบอธิปไตย ระบอบการปกครอง กระบวนการยุติธรรม หรือสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคงในประเทศไทย ตลอดจนทำลายความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเรื่องที่ทีมเจรจาต้องตระหนักและตั้งหลักให้ดี
ดังที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลต้องไม่เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ไปปะปนกับการเจรจาการค้า อย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของประชาชน รวมถึงมีความเสี่ยงที่ทำให้ภาพลักษณ์ของไทย กระทบความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เป็นวงกว้าง ต้องเตรียมมาตรการเชิงรุก เพื่อสร้างแต้มต่อ ไม่หลงกล ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการสื่อสารกับประชาชน และมิตรประเทศอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ในเวทีระหว่างประเทศ
ด้าน พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน มองนโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์ เป็นมากกว่าแก้ปัญหาการขาดดุลการค้า นอกจากการทำสงครามการค้ากับจีน ยังหวังผลทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่จีนประกาศว่า ประเทศใดทำข้อตกลงที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีน ตัดจีนจากห่วงโซ่อุปทาน จะเจอการตอบโต้ เมื่อวิเคราะห์กรณีบราซิลเจอภาษี 50% ญี่ปุ่น 25% แต่ทั้งสองประเทศไม่ยอมอ่อนข้อให้สหรัฐฯ สะท้อนว่ามหาอำนาจเก่าเสื่อมถอย และโลกใหม่มีทางเลือกมากขึ้น
ขณะที่ รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงการเจรจากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา เมื่อพิจารณาการตั้งอัตราภาษีนำเข้าของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศต่าง ๆ แม้ในภาพรวมจะเป็นเรื่องความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ แต่เมื่อเจาะลึกในรายละเอียดกลับพบว่า มาจากเหตุผลทางการเมืองและความมั่นคง เช่น การขู่ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มอีก 10 % กับประเทศที่สนับสนุน BRICS
“รัฐบาลควรใช้วิกฤติครั้งนี้ สร้างโอกาสเพื่อทำให้ประเทศให้แข็งแกร่ง เพราะการหวังพึ่งพิงประเทศอื่นตลอดไป ย่อมไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน หากภาครัฐมีธรรมาภิบาล แรงงานมีความรู้ความสามารถ จะนำมาซึ่งเม็ดเงินผ่านการลงทุนจากต่างประเทศ ในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับสูง ฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปได้” รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว