วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 17, 2025
หน้าแรกต่างประเทศจีนเจรจา..ภาษีทรัมป์ อย่าเอาใจ “อเมริกา” จนทำลายสัมพันธ์กับ “จีน”

Related Posts

เจรจา..ภาษีทรัมป์ อย่าเอาใจ “อเมริกา” จนทำลายสัมพันธ์กับ “จีน”

จีนยังเป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทย และยังสำคัญมากขึ้นในอนาคต การที่รัฐบาลทรัมป์ตั้งกำแพงภาษี 36% นอกจากเหตุผลเพื่อลดการขาดดุลการค้า สาเหตุหลักน่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง  หากข้อเสนอที่แท้จริงของสหรัฐอเมริกา เป็นเรื่องที่กระทบอธิปไตย ระบอบการปกครอง กระบวนการยุติธรรม หรือสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคงในประเทศไทย ตลอดจนทำลายความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเรื่องที่ทีมเจรจาต้องตระหนักและตั้งหลักให้ดี

ดังที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลต้องไม่เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ไปปะปนกับการเจรจาการค้า อย่างเด็ดขาด  เพราะเรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของประชาชน รวมถึงมีความเสี่ยงที่ทำให้ภาพลักษณ์ของไทย กระทบความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เป็นวงกว้าง ต้องเตรียมมาตรการเชิงรุก เพื่อสร้างแต้มต่อ ไม่หลงกล ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการสื่อสารกับประชาชน และมิตรประเทศอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ในเวทีระหว่างประเทศ

ด้าน พล.อ.สุรสิทธิ์​ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน มองนโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์​ เป็นมากกว่าแก้ปัญหาการขาดดุลการค้า นอกจากการทำสงครามการค้ากับจีน​ ยังหวังผลทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่จีนประกาศ​ว่า ประเทศใดทำข้อตกลงที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีน​ ตัดจีนจากห่วงโซ่อุปทาน จะเจอการตอบโต้​ เมื่อวิเคราะห์กรณีบราซิลเจอภาษี 50% ญี่ปุ่น 25% แต่ทั้งสองประเทศไม่ยอมอ่อนข้อให้สหรัฐฯ​  สะท้อนว่ามหาอำนาจเก่าเสื่อมถอย​ และโลกใหม่มีทางเลือกมากขึ้น

ขณะที่ รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงการเจรจากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา เมื่อพิจารณาการตั้งอัตราภาษีนำเข้าของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศต่าง ๆ แม้ในภาพรวมจะเป็นเรื่องความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ แต่เมื่อเจาะลึกในรายละเอียดกลับพบว่า มาจากเหตุผลทางการเมืองและความมั่นคง เช่น การขู่ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มอีก 10 % กับประเทศที่สนับสนุน BRICS

“รัฐบาลควรใช้วิกฤติครั้งนี้ สร้างโอกาสเพื่อทำให้ประเทศให้แข็งแกร่ง เพราะการหวังพึ่งพิงประเทศอื่นตลอดไป ย่อมไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน หากภาครัฐมีธรรมาภิบาล แรงงานมีความรู้ความสามารถ จะนำมาซึ่งเม็ดเงินผ่านการลงทุนจากต่างประเทศ ในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับสูง ฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปได้” รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts