วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 28, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมทายาทมรดก 300 ล้าน ร้อง กมธ.กม.ตรวจสอบกลุ่มทนายรวมหัวโกงเงิน 57 ล้านบาท ผ่านการปลอมแปลงเอกสาร ยึดทรัพย์ และขายทอดตลาด

Related Posts

ทายาทมรดก 300 ล้าน ร้อง กมธ.กม.ตรวจสอบกลุ่มทนายรวมหัวโกงเงิน 57 ล้านบาท ผ่านการปลอมแปลงเอกสาร ยึดทรัพย์ และขายทอดตลาด

วันที่ 28 ส.ค. 68 เวลา 10.30 น. ที่ห้องแถลงข่าว ช้้น 1 อาคารรัฐสภา สส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คนที่หนึ่ง คนที่หนึ่ง รับยื่นหนังสือจาก นายชาญวุฒิ เมฆรักษาวนิช อายุ 59 ปี บุตรชาย นางน้อย เมฆรักษาวนิช ทายาทของนางชูจิตต์ วงศาธิปัตย์ เจ้าของมรดกจำนวนกลายร้อยล้านบาท ผู้เสียหาย เพื่อขอให้ กมธ.พิจารณาปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่การตรวจสอบกระบวนการไกล่เกลี่ยยอมความที่ศาล การยึดทรัพย์บังคับคดี การตรวจคุณสมบัติผู้สมัครทนายความก่อนได้รับใบอนุญาตว่าความ รวมถึงการปรับปรุงฐานข้อมูลให้เป็นดิจิทัลของศาล กรมบังคับคดี สภาทนายความ ให้สามารถเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ ฉับไว เพื่ออุดช่องโหว่มิให้มิจฉาชีพใช้เป็นโอกาสก่ออาชญากรรม

นายชาญวุฒิ เปิดเผยว่า ด้วยปรากฏว่ามีขบวนการทนายมิจฉาชีพอย่างน้อย 6 คน จากสำนักงานกฎหมายมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ได้สมคบคิดกันปลอมแปลงสัญญาเงินกู้ 3 ฉบับ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นทั้งทนายโจทก์และทนายจำเลย ยื่นฟ้องกันที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานีในปี 2564 รวมทั้งหมด 3 คดี แล้วปลอมแปลงสัญญา
ประนีประนอมยอมความขึ้น 3 ฉบับ เพื่อพาโจทก์กับจำเลยซึ่งก็อยู่ในขบวนการสมคบคิดเช่นเดียวกัน ไปเซ็นสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลเพื่อให้มีคำพิพากษาตามยอม สุดท้ายให้จำเลยทำผิดสัญญาประนีประนอมยอมความตั้งแต่นัดแรกเพื่อให้นำไปสู่การตั้งเจ้าพนักงานยึดที่ดินขายทอดตลาด 3 แปลง
อายัดเงินฝากในธนาคาร 2 บัญชี มูลค่าความเสียหายกว่า 57 ล้านบาท ตามราคาประเมินของกรมที่ดิน (คิดตามมูลค่าตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท)

จากการสืบสวนค้นข้อมูลปรากฎว่า ทนายความอย่างน้อย 1 คน ในขบวนการนี้เป็นถูกศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 “ก่อน” ที่จะได้ใบอนุญาตทนายในเดือนกรกฎาคม ปีเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิดพระราชบัญญัติทนายความปี 2527 อย่างชัดแจ้ง

จึงขอให้ คณะ กมธ. ใช้เรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นกรณีศึกษา ในการทบทวนปรับปรุงแก้ไขเรื่อง การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นขอใบอนุญาตทนายความของสภาทนายความแห่งประเทศไทยซึ่งใช้เงินภาษีประชาชนปีละหลายสิบล้านบาท
นายชาญวุฒิ กล่าวเพิ่มเติม ตนได้ยื่นเรื่องดังกล่าวร้องเรียนมารยาททนายความไปยังสภาทนายความเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และยังได้แจ้งความเอาผิดกลุ่มทนายมิจฉาชีพเหล่านี้ต่อ กก.5 บก.ป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อเดือน มี.ค. เนื่องจากวิธีการที่กลุ่มทนายความเหล่านี้กระทำเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายท้องที่มีความสลับซับซ้อนและเป็นที่น่าสนใจของสื่อมวลชน จึงต้องให้กองบังคับการปราบปรามซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการทำคดีได้สอบปากคำตนไปเรียบร้อยแล้วกำลังพิจารณาออกหมายเรียกผู้ที่โดนกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน สส.ศศินันท์ กล่าวว่าได้รับการร้องเรียนจากนายชาญวุฒิ เรียกร้องให้ กมธ. นำคดีที่เกิดขึ้นกับครอยครัวมาเป็นกรณีศึกษา เพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุงระบบต่างๆ ของกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งปัจจุบันนายกสภาทนายความได้คนใหม่ ซึ่งมีแนวคิดที่จะทำระบบฐานข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ทางคณะกรรมาธิการจะนำไปเป็นกรณีศึกษาต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts