วันจันทร์, กันยายน 1, 2025
หน้าแรกอาชญากรรม“เบสท์” ค้าน “เอ๋ พลอยรัชษ์” ขอเป็นผู้ร่วมจัดการมรดก “เอ๋ ไพโรจน์” ศาลนัดไต่สวน 29 ต.ค.

Related Posts

“เบสท์” ค้าน “เอ๋ พลอยรัชษ์” ขอเป็นผู้ร่วมจัดการมรดก “เอ๋ ไพโรจน์” ศาลนัดไต่สวน 29 ต.ค.

สมุทรปราการ – ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 1 ก.ย.68 นางสาวปณิชา สังวริบุตร หรือ “เบสท์” บุตรสาวของอดีตนักแสดงผู้ล่วงลับ ไพโรจน์ สังวริบุตร หรือ “เอ๋ ไพโรจน์” เข้าไต่สวนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก หลังมีข้อพิพาทกับ นางพลอยรัชษ์ ชินรัตน์วาณิช หรือ “เอ๋ พลอยรัชษ์” อดีตภรรยาคนล่าสุดของบิดา

การไต่สวนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ เบสท์ ยื่นเอกสารขอเป็นผู้จัดการมรดก และถูก เอ๋ พลอยรัชษ์ ยื่นเรื่องคัดค้าน โดยอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินบางส่วน โดยเฉพาะบ้านที่สมุทรปราการ ซึ่งอดีตภรรยาอ้างว่า เป็นทรัพย์สินที่สร้างร่วมกัน

ภายหลังการไต่สวนนานกว่า 2 ชั่วโมง เบสท์ ปณิชา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับฝั่งคู่กรณีเป็นการส่วนตัว และยืนยันว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่น่าจะเป็นข้อพิพาทขึ้นมาได้ เนื่องจากอีกฝ่ายยังคงสามารถเข้าออกบ้านได้ตามปกติ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงหลักฐานที่ เอ๋ พลอยรัชษ์ นำมาแสดงเพื่ออ้างว่าได้ทำธุรกิจร่วมกับคุณพ่อ เบสท์กล่าวว่า “จริงๆ ไม่มีอะไร” พร้อมทั้งยืนยันว่ายินดีจะยกทรัพย์สินส่วนที่อีกฝ่ายอ้างว่าได้ร่วมกันหามาให้

เบสท์ยังคงคัดค้านการที่ เอ๋ พลอยรัชษ์ จะเข้ามาเป็นผู้จัดการมรดกร่วม โดยให้เหตุผลหลัก 2 ประการ ได้แก่ หนึ่ง ไม่มีเอกสารการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้อง และ สอง มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ของ เอ๋ ไพโรจน์ ที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่าได้เลิกรากันไปแล้ว
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้นัดไต่สวนทั้งสองฝ่ายอีกครั้งในวันที่ 29 ตุลาคม 2568

ไทม์ไลน์ความขัดแย้ง
ความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินมรดกเริ่มขึ้นภายหลังการเสียชีวิตของ เอ๋ ไพโรจน์ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 นางพลอยรัชษ์ ชินรัตน์วาณิช ได้เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมกับนายอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ โดยกล่าวว่าถูกบุตรสาวของสามีกีดกันไม่ให้เข้าบ้าน และยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต
นางพลอยรัชษ์อ้างว่า หลังจากสามีเสียชีวิตได้เพียง 15 วัน เบสท์ได้ส่งข้อความมาแจ้งว่าบ้านได้ถูกโอนไปให้ผู้อื่นแล้ว และเมื่อกลับมาก็พบว่าลูกบิดประตูถูกเปลี่ยน ทำให้เธอไม่สามารถเข้าบ้านได้ นอกจากนี้ยังสงสัยว่าทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ ทั้งพระเครื่อง, ฮาร์ดดิสก์, คอมพิวเตอร์ และแหวนของสามีได้สูญหายไป

ทางด้าน เบสท์ ปณิชา ได้ออกมาชี้แจงโต้แย้งว่า นางพลอยรัชษ์ไม่ได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และได้นำรถยนต์ของคุณพ่อไปใช้แล้วไม่คืน ส่วนการเปลี่ยนลูกบิดประตูนั้นทำไปเพื่อป้องกันของหาย แต่ยืนยันว่าอีกฝ่ายยังคงเข้าออกบ้านได้ และเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวยังอยู่ครบ พร้อมทั้งย้ำว่า เอ๋ ไพโรจน์ เคยให้สัมภาษณ์ว่าเลิกรากับอีกฝ่ายไปแล้ว เบสท์ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้เธอกำลังรอคำสั่งศาลเพื่อให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts