“เฉลิมชัย” มอบหนังสือรับรองสิทธิ์ทำกิน ประกาศลั่นดูแลพิทักษ์ป่าดุจครอบครัว
“…เสียงเฮของชาวบ้านดังก้องป่าชายแดนศรีสะเกษ เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ “ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน” บุกถึงถิ่นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา เพื่อมอบหนังสือรับรองสิทธิ์ทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ให้กับชาวบ้านด้วยตัวเอง ถือเป็นก้าวสำคัญในการยุติข้อพิพาทที่ยืดเยื้อ พร้อมกันนี้ยังประกาศอัดฉีดสวัสดิการชุดใหญ่ให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปิดทองหลังพระแห่งผืนป่าไทย…”






ณ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง ได้เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภารกิจสองเป้าหมายสำคัญ คือ “ปลดล็อกปัญหาที่ทำกิน” และ “เติมใจให้ผู้พิทักษ์ป่า”
บรรยากาศเต็มไปด้วยความยินดี เมื่อ ดร.เฉลิมชัย ได้มอบเอกสารสำคัญที่ชาวบ้านรอคอยมานาน นั่นคือหนังสือรับรองการอยู่อาศัยหรือทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ ซึ่งเปรียบเสมือนหลักประกันความมั่นคงในชีวิต โดยมีชาวบ้านจากอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย 5 ราย ได้รับหนังสือรับรองตามมาตรา 64 และอีก 5 รายจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุญฑริก-ยอดมน ได้รับหนังสือรับรองตามมาตรา 121 นับเป็นการแก้ไขปัญหาคนอยู่กับป่าอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากการแก้ปัญหาให้ชาวบ้านแล้ว ภารกิจสำคัญอีกประการคือการเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจเหล่า “ฮีโร่” ผู้พิทักษ์ป่าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวตะเข็บชายแดน ดร.เฉลิมชัยได้กล่าวชื่นชมความเสียสละของเจ้าหน้าที่ พร้อมย้ำว่า “ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง”
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีฯ เฉลิมชัย ได้มอบนโยบายครั้งสำคัญเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยประกาศพร้อมทุ่มงบประมาณสนับสนุนเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น:
- อุปกรณ์ที่ทันสมัย: เสริมศักยภาพการลาดตระเวนให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- การฝึกอบรมเข้มข้น: เพิ่มทักษะด้านความปลอดภัย การเอาตัวรอด และการกู้ชีพกู้ภัยฉุกเฉิน
- อาวุธป้องกันตัว: จัดหาอาวุธที่จำเป็นสำหรับป้องกันชีวิตเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตราย




การลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการตรวจเยี่ยมตามวาระ แต่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจากภาครัฐว่า ทั้ง “ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน” และ “สวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ” เป็นสิ่งที่กระทรวงฯ ให้ความสำคัญสูงสุด ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไปว่านโยบายเหล่านี้จะถูกผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศได้อย่างไร
#สืบจากข่าว รายงาน