เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 ก.ย.68 ที่ บริเวณด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า ริมฟุตบาท จ่าคิงส์ สะพานใหม่ และ อ.มานพ สีเหลือง พานายเอ (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 17 ปี และนางสมสกุล อายุ 42 ปี มารดา ได้แถลงข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกทำร้ายร่างกายด้วยขวดเหล้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อ 4 เดือนก่อน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
นายเอ เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ขณะที่ตนและรุ่นพี่อีก 3 คนกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งย่านบางแก้ว กทม. ตนได้เข้าไปขอชนแก้วกับชายวัยกลางคน 2 คน อายุประมาณ 40-46 ปี เพื่อดึงดูดความสนใจของคู่กรณี ซึ่งพยายามจะแทะโลมแฟนของรุ่นพี่ที่นั่งอีกโต๊ะ ทำให้ชายกลุ่มดังกล่าวไม่พอใจและเริ่มต่อว่า ตนและรุ่นพี่จึงได้ยกมือไหว้ขอโทษ การ์ดของร้านได้เข้ามาห้ามปรามและแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
ต่อมาเวลาประมาณ 01.20 น. ชายกลุ่มเดิมได้เดินตรงเข้ามาหาตน ตนจึงลุกขึ้นเพื่อป้องกันตัว ชายคนหนึ่งได้เข้ามาดึงคอเสื้อตนและชกเข้าที่ใบหน้า ก่อนจะคว้าขวดเหล้าจากโต๊ะฟาดเข้าที่ใบหน้าตนถึง 2 ครั้ง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ต้องเย็บถึง 50 เข็ม หลังเกิดเหตุการ์ดได้เข้ามาแยกและนำตัวส่งโรงพยาบาล
นายเอ เปิดเผยอีกว่าหลังจากเกิดเหตุแม่ได้มาที่ รพ.เพื่อพาตนไปแจ้งความตำรวจ สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี แต่เวลาผ่านมาแล้วกว่า 4 เดือน คดีกลับไม่มีความคืบหน้า และยังทราบอีกว่าเจ้าของร้านเหล้าดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมและกังวลใจ จึงตัดสินใจเข้าขอความช่วยเหลือจากจ่าคิงส์ เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมและเร่งรัดคดีให้ถึงที่สุด
นางสมสกุล ยอมรับว่าได้ตักเตือนสั่งสอนลูกชายมาตลอดว่าไม่ให้ไปในสถานที่ จำหน่ายสุราแบบนั้น แต่ก็ต้องทำมาหากินซึ่งลูกชายก็จะแอบไปเองโดยที่ตนไม่รู้ สามีและตนต่างคนต่างก็ทำงานไม่ค่อยมีเวลาที่จะดูแลลูกชายซึ่งคนที่เกิดเหตุนี้เป็นลูกคนเล็ก เห็นสภาพบาดแผลที่ลูกชายโดนกระทำแล้วยอมรับไม่ได้พอออกคนเป็นแม่เสียใจมาก หลังเกิดเหตุได้มีแม่ของผู้ก่อเหตุหนึ่งคนโทรมาเพื่อที่จะเจรจาตนขอค่าเสียหายเพราะจะต้องใช้จ่ายในการรักษาตัวและศัลยกรรมใบหน้าของลูกชายซึ่งเกิดจากโดนคมของขวดแก้วบาดแผลลึกและยาวต้องเย็บจำนวน 50 เข็ม แม้จะผ่านมากว่าสี่เดือนแล้วแผลก็ยังไม่หายสนิทจึงได้ค่าเสียหาย ผู้ก่อเหตุสองคน ไปคนละ 1.5 แสนบาท แต่แม่ของคู่กรณีบอกไม่มีปัญญาใช้ก่อนจะตำหนิลูกชายตนกลับมาอีกรอบหนึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจรจากันอีกเลย ต้นพยายามสอบถามร้อยเวรเจ้าของคดีถึงความคืบหน้าของคดีว่าไปถึงไหนแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจ แค่บอกเพียงว่ากำลังจะเรียกให้คู่กรณีสองรายมารับทราบข้อกล่าวหาแต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ดำเนินการตามกระบวนการตนจึงต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากจากคิงส์ในวันนี้
หลังจากแถลงข่าวเสร็จ จ่าคิงส์ พานายเอ และมารดาเข้าพบ กก.1 พงส.บก.ป.ขอความช่วยเหลือ ประสานไปยังสน. อุดมสุขให้เร่งรัดคดีดำเนินการตามกฏหมาย ต่อไป














