โครงการ “ภูเขาเขียว น้ำใส” ทำให้จีนเพิ่มพื้นที่ป่าได้มากกว่า 25% ช่วยแก้ปัญหามลพิษและการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมที่เคยรุนแรง ให้ได้รับการพลิกฟื้นอย่างเห็นได้ชัด เกิดเป็นโมเดล ‘ชนบทอันงดงาม’ ได้รับการเผยแพร่และส่งเสริม โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP)
จีนไม่เพียงเดินหน้า พัฒนาโครงการสีเขียวเพียงลำพัง หากแต่ใช้โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI สีเขียว กระตุ้นพลังแห่งการเปลี่ยนผ่าน บูรณาการร่วมกับโลกทั้งใบ อาทิ การร่วมมือกับประเทศในทวีปแอฟริกา จัดทำโครงการต้นแบบ “เกษตรสีเขียว” นำเทคโนโลยีชลประทานแบบประหยัดน้ำ และองค์ความรู้ด้านการจัดการเกษตรเชิงนิเวศ เข้ามาประยุกต์ใช้ ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีสีเขียว และการพัฒนาที่ยั่งยืนของสินค้าเกษตร เพื่อยกระดับความมั่นคงทางอาหาร และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น
ขณะที่ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน–จีน หรือ ACFTA 3.0 กำลังจะเป็นจริง หลังจากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในการยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ครอบคลุม 14 บทสำคัญ โดยเพิ่มประเด็นใหม่ที่สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน คือ เศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งจะลงนามอย่างเป็นทางการ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน–จีน ครั้งที่ 28 เดือนตุลาคม 2568 ณ ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ หลังจากความตกลงฉบับแรกมีผลบังคับใช้มากว่า 20 ปี โดยสาระสำคัญของเศรษฐกิจสีเขียวคือ การสนับสนุนการค้าสีเขียว การลงทุนเพื่อความยั่งยืน และมาตรการลดการปล่อยคาร์บอน
ในเวทีการประชุม COP29 ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน จีนและหลายประเทศ เน้นย้ำถึงความร่วมมือในการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่การขับเคลื่อนสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจีนลงนามบันทึกความร่วมมือ เกี่ยวกับการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กับประเทศกําลังพัฒนา 42 ประเทศ เปิดตัวโครงการเกือบ 100 โครงการ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาและการรับมือสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังมีโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มากกว่า 300 โครงการ ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา อีกกว่า 120 ประเทศทั่วโลก
สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กระตุ้นเตือนสังคมทุกภาคส่วน ส่งเสริมและเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตามแนวคิด “น้ำใสและเขาเขียว เป็นสินทรัพย์อันประเมินค่ามิได้” อย่างจริงจัง
