“จิตวิญญาณบันดุง” และ “วิถีอาเซียน” ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างจีนกับอาเซียน นับวันจะแน่นแฟ้น ด้วยการยึดมั่นในหลัก 5 ประการ
ท่ามกลางความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่กำลังขยายวงกว้าง ทำลายระบบ “โลกาภิวัฒน์” ด้วยแนวคิด “อำนาจนิยม” กลายเป็นชนวนให้ประเทศกำลังพัฒนา หันเข้าหา “โลกขั้วใหม่” ที่มี“จีน” เป็นผู้นำ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสนอแนวคิดที่สำคัญ ในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ของมนุษยชาติ ซึ่งเป็นคำตอบของจีน ต่อคำถามของโลก และคำถามของยุคสมัย
การก้าวขึ้นมาของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เป็นตัวทวีคูณในการแสวงหา เพื่อเป็นผู้นำในการเกิดขึ้นของระเบียบโลกทางเลือก ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานอำนาจที่ค่อยๆ เสื่อมถอยลง ของชาติตะวันตก พร้อมกับการยึดมั่น ในหลักการ 5 ประการของจีน คือ
1. เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน
2. ไม่รุกรานกัน
3. ไม่แทรกแซงกิจการภายใน
4. ร่วมมืออย่างเท่าเทียมและเกิดประโยชน์ซึ่งกันและกัน
5. อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
หลัก 5 ประการดังกล่าว ได้รับการส่งเสริมอย่างอ่อนโยน และฉลาดที่สุด ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และยังคงรักษาแนวคิดนี้ อย่างต่อเนื่องมาตลอด 70 ปี
แม้ 70 ปีต่อมา โลกยังตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน และกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบศตวรรษ แต่จีนยังพร้อมจัดระเบียบ แบบกระจายโอกาสอย่างเท่าเทียม และทั่วถึง
จีน-อาเซียน ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักการ “จิตวิญญาณบันดุง” และ “วิถีอาเซียน” ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างกัน นับวันจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เกิดแรงผลักดันใหม่อย่างต่อเนื่อง
