“….การขับเคี่ยวกันระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนตลอดเวลาร่วม 8 ปี ของสงครามการค้าที่สหรัฐฯเป็นฝ่ายเริ่มต้น และมีแนวโน้มสิ้นสุดลงโดยฝ่ายสหรัฐฯต้องยอมจำนนต่อมาตรการตอบโต้ของจีนโดยดุษฎีในที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับคำวินิจฉัย”ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ”ที่สีจิ้นผิงได้นำเสนอมาเป็นระยะๆ สหรัฐอเมริกาในฐานะหัวโจกโลกทุนนิยมมุ่งทำลายแผนการสร้างชาติจีน ทุกรูปแบบ จีนก็ใช้กลยุทธ์รับและยัน ขณะเดียวกันก็เร่งสร้างความเป็นเอกภาพทางความคิด ปิดจุดอ่อนทุกจุดให้สำเร็จ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีหลังนี้ ได้โชว์ศักยภาพที่ล้ำหน้าสหรัฐฯทางด้านการป้องกันประเทศให้โลกเห็นแบบเต็มตา และบัดนี้ จีนก็ได้เปิดยุทธการ”รุก” ในสงครามการค้าและเทคโนโลยี่แบบเต็มรูป โดยประกาศมาตรการควบคุมแร่หายากทั้งในด้านการผลิต การจัดขายจำหน่าย ตลอดจนการถ่ายโอนเทคโนโลยีกรรมวิธีการผลิตและสังเคราะห์วิจัยในขอบเขตทั้งโลก ย่อมหมายถึงว่าสหรัฐฯและทุกประเทศทั่วโลก จะต้องขออนุมัติจากทางการจีนในการผลิตชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแทบทุกประเภท ที่เกี่ยวข้องกับการใช้แร่หายาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางด้านการทหารตั้งแต่จรวดไปจนถึงเครื่องบินรบล่องหน เนื่องจาก ณ วันนี้ ทั่วทั้งโลกต้องพึ่งพาเทคโนโลยีแร่หายากจากจีนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นการต่อยมวย รูปมวยของจีนวันนี้ มีหรือจะไม่น็อก …”
จับทางจีน正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร陈俊泰
ตรึงอเมริกาอยู่กับที่ นำพาโลกเคลื่อนต่อไป
将美国锁住,全球有序前进
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในห้วงเวลานี้ กำลังสะท้อนถึงทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยแนวโน้มก็คือสหรัฐฯกำลังอ่อนแรง ขณะที่จีนดูเปี่ยมไปด้วยพลัง ระบบโลกที่สหรัฐฯชี้นิ้วบงการกำลังจะหลีกทางให้แก่ระบบโลกใหม่ที่มีจีนเป็นหัวเรือใหญ่ โดยทุกฝ่ายร่วมคิดร่วมทำในระดับ “ทั้งโลก” เพื่อบรรลุจุดหมายปลายทางที่เป็นทางออกร่วมกันของมวลมนุษยชาติ
ทั้งนี้ เส้นทางสู่อนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติตามแนวคิดของจีนที่ยึดตามกฎเกณฑ์การขับเคลื่อนของสังคมมนุษย์ที่ดำเนินไปตามขั้นตอนการพัฒนาก้าวหน้าของพลังการผลิต ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ก้าวมาถึงขั้นของการพัฒนาพลังการผลิตคุณภาพใหม่ที่มีเทคโนโลยีเอไอเป็นหัวใจ และทางการจีนโดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้ทะยอยนำเสนอสู่เวทีโลกตั้งแต่เมื่อปีคศ.2013เป็นต้นมาจนครบถ้วนแล้วเมื่อต้นปีนี้ ที่สำคัญประกอบไปด้วย 1 เป้าหมายและ 5 ข้อเสนอริเริ่มดังนี้
1เป้าหมายก็คือการสร้างประชาคมโลกที่มวลมนุษย์มีอนาคตร่วมกัน หรือ”เหรินเล่ย มิ่งวิ่น ก้งถงถี่)” (人类命运共同体)ด้วยมาตรการที่เรียกว่า”ข้อเสนอริเริ่ม” ดังนี้
1.ข้อเสนอริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือ”อีไต้อีลู่ชั่งอี้” (一带一路倡议)
2.ข้อเสนอริเริ่มการพัฒนาร่วมกันทั้งโลก หรือ”เฉวียนฉิวฟาจ่านชั่งอี้” (全球发展倡议)
3.ข้อเสนอริเริ่มการสร้างความมั่นคงร่วมกันทั้งโลก หรือ”เฉวียนฉิวอันเฉวียนชั่งอี้”(全球安全倡议)
4.ข้อเสนอริเริ่มการสร้างอารยธรรมร่วมกันทั้งโลก หรือ” เฉวียนฉิวเหวินหมิงชั่งอี้” (全球文明倡议)และ
5.ข้อเสนอริเริ่มสร้างการปกครองร่วมกันทั้งโลก หรือ”เฉวียนฉิวจื้อหลี่ชั่งอี้” (全球治理倡议)
จากภาพรวมเชิงวิเคราะห์ที่ผู้เขียนนำเสนอมาแล้วนี้ จะทำให้เราได้คำตอบถึงการขับเคี่ยวกันระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนตลอดเวลาร่วม 8 ปี(2017-2025)ของสงครามการค้าที่สหรัฐฯเป็นฝ่ายเริ่มต้น และมีแนวโน้มสิ้นสุดลงโดยฝ่ายสหรัฐฯต้องยอมจำนนต่อมาตรการตอบโต้ของจีนโดยดุษฎีในที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับคำวินิจฉัย”ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ”ที่สีจิ้นผิงได้นำเสนอมาเป็นระยะๆ
ทั้งหมดนี้มาจากการวินิจฉัยของนักประวัติศาสตร์โลกทั้งที่มาจากจีนและโลกตะวันตกโดยรวม ที่ยึดมั่นในความถูกต้องของประวัติศาสตร์มากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของกลุ่มตนหรือชาติตน ทำการวิเคราะห์ทุกอย่างโดยเริ่มจากความเป็นจริงและอย่างเป็นวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ต่อทุกคำตอบที่นำเสนอ
โดยสามารถประมวลผลออกมาให้เห็นภาพได้ดังนี้
สหรัฐอเมริกาจุดไฟสงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องโดยหวังว่าจะสามารถสะกัดกั้นการพัฒนาเติบใหญ่ของจีนตามการคาดหมายของนักการเมืองทั้งในสังกัดพรรครีปับลิกันและพรรคเดโมแคร็ต
ในฉากแรกของการต่อสู้ จีนใช้กลยุทธ์รับและยัน พยายามถ่วงเวลาด้วยมาตรการผ่อนหนักให้เป็นเบา ขณะเดียวกันก็เร่งสร้างความเป็นเอกภาพทางความคิด กำหนดแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ดำเนินสงครามยืดเยื้อ ตลอดจนทำการปิดจุดอ่อนทุกจุดให้สำเร็จ เช่นจุดอ่อนทางด้านเซมิคอนดักเตอร์และเอไอ
จีนได้ข้อสรุปเชิงประวัติศาสตร์ว่าสหรัฐอเมริกาในฐานะหัวโจกโลกทุนนิยมมุ่งทำลายแผนการสร้างชาติจีนให้รุ่งเรือง มีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ที่จะต้องทำการต่อสู้จนถึงที่สุดทุกรูปแบบ กระทั่งการทำสงคราม และจีนก็ได้แสดงจุดยืนนี้อย่างเปิดเผยครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยเฉพาะในช่วง1-2ปีหลังนี้ จีนได้โชว์ศักยภาพที่ล้ำหน้าสหรัฐฯทางด้านการป้องกันประเทศให้โลกเห็นแบบเต็มตา โดยเฉพาะในการสวนสนามครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา
มาบัดนี้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมนี้เอง จีนก็ได้เปิดยุทธการ”รุก” ในสงครามการค้าและเทคโนโลยี่แบบเต็มรูป โดยประกาศมาตรการควบคุมแร่หายากทั้งในด้านการผลิต การจัดขายจำหน่าย ตลอดจนการถ่ายโอนเทคโนโลยีกรรมวิธีการผลิตและสังเคราะห์วิจัยในขอบเขตทั้งโลก
มาตรการควบคุมที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนในการใช้แร่หายากเช่นนี้ ย่อมหมายถึงว่าสหรัฐฯและทุกประเทศทั่วโลก จะต้องขออนุมัติจากทางการจีนในการผลิตชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแทบทุกประเภท ที่เกี่ยวข้องกับการใช้แร่หายาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางด้านการทหารตั้งแต่จรวดไปจนถึงเครื่องบินรบล่องหน
เนื่องจาก ณ วันนี้ ทั่วทั้งโลกต้องพึ่งพาเทคโนโลยีแร่หายากจากจีนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์!
ถ้าเป็นการต่อยมวย รูปมวยของจีนวันนี้ก็คือเมื่อปิดจุดอ่อนของตนเองได้หมดแล้ว ก็เปิดฉากใช้จุดแข็งโจมตีจุดอ่อนของคู่ชกทันที!
มีหรือจะไม่น็อก!
ไขคำจีน
全球 เฉวียนฉิว ทั้งโลก