“…….การพัฒนาก้าวหน้าของพลังการผลิตอันมีเหตุจากความก้าวหน้าของวิทยาการยุคใหม่ ได้นำมาสู่การตื่นตัวของประชาชนทั่วโลก ตามคำวินิจฉัยของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่ว่า “การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบร้อยปี” โดยท่านถือว่าความเรียกร้องต้องการของประชาชนชาวโลกโดยรวมนี้ ก็คือจุดหมายทางที่จีนจะร่วมกับนาๆประเทศทำการให้สำเร็จ ปัญหาที่เราจะต้องตีให้แตกก็คือ ประเทศจีนจะแบกรับภารกิจทางประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างไร? เรื่องนี้ยังจะต้องประเมินกันด้วยสติปัญญาและภูมิปัญญาต่อสิ่งที่จีนมีอยู่ในเบื้องความเป็นมนุษย์แบบจีนยุคใหม่เริ่ม ที่ต้นเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตงทำการเปลี่ยนแปลงสังคมจีน จากสังคมกึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา มาเป็นสังคมนิยม สร้างประเทศจีนใหม่โดยถือเอาประขาชนเป็นศูนย์กลาง คนจีนนับร้อยๆล้านพากันตื่นตัวลงมือทำการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลายพันปีของจีนที่ประชาชนทั้งประเทศร่วมกันทุ่มเทแรงกายและสมองสร้างชีวิตความเป็นอยู่ให้กับตนเอง ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ด้วยความคิดเหมาเจ๋อตง คือจุดเริ่มของทุกสิ่งทุกอย่างที่เบ่งบานตามมาในภายหลัง หากไม่มีจุดเริ่มต้นนี้ ก็จะไม่มีจีนในวันนี้ ก็จะไม่มีจีนที่สามารถยืนซดหมัดกับสหรัฐอเมริกาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อดังเช่นที่เห็นกันอยู๋ในวันนี้ ….”
จับทางจีน正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร陈俊泰
เหตุปัจจัยเบื้องลึกที่กำหนดให้จีนเป็นผู้ชนะตลอดกาล促使中国引领世界的根本原因
บทนี้ผู้เขียนขออนุญาตนำเสนอเรื่องราวที่สะท้อนทิศทางประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติที่สำคัญยิ่งในยุคของเรา ที่ปรากฏออกมาแล้วในรูปคำวินิจฉัยของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่ว่า”การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบร้อยปี”
ทั้งนี้ ท่านไม่ได้เจาะลึกลงไปว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีสิ่งใดเป็นตัวกำหนด ได้แต่วิเคราะห์กว้างๆว่าเป็นผลจากการพัฒนาก้าวหน้าของพลังการผลิตอันมีเหตุจากความก้าวหน้าของวิทยาการยุคใหม่ ได้นำมาสู่การตื่นตัวของประชาชนทั่วโลก เรียกร้องทั่วไปในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเป็นธรรมและสันติสุขถ้วนหน้าในท่ามกลางการพัฒนาก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
โดยท่านถือว่าความเรียกร้องต้องการของประชาชนชาวโลกโดยรวมนี้ ก็คือจุดหมายทางที่จีนจะร่วมกับนาๆประเทศทำการให้สำเร็จ ดังที่ได้ปรากฏอยู่ในข้อเสนอริเริ่มต่างๆอย่างชัดเจน
ปัญหาที่เราจะต้องตีให้แตกก็คือ ประเทศจีนจะแบกรับภารกิจทางประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างไร?
เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ต้องวัดกันที่ศักยภาพทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการผลิต วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการทหารที่เป็นสิ่งที่วัดกันเป็นตัวเลขสถิติได้เท่านั้น แต่ยังจะต้องประเมินกันด้วยสติปัญญาและภูมิปัญญาต่อสิ่งที่จีนมีอยู่ในเบื้องลึก และดำรงอยู่ในฐานะแก่นสารของความเป็นจีน ขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงของจีนให้เป็นไปตามกฎการพัฒนาของสังคมมนุษย์ตราบนานเท่านาน
อีกนัยหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงของจีน ดำเนินมาและจะดำเนินไปตามหลักเหตุและผลบนฐานของความเป็นมนุษย์ หากมิใช่เพราะโครงการวิเศษเหนือธรรมชาติที่จำเพาะเจาะจงว่าจีนหรือคนจีนมีอะไรมากกว่าความเป็นมนุษย์สายพันธุ์ปัจจุบัน และจีนเองก็มิได้ยกตัวเองว่าเป็นผู้อยู่เหนือชนชาติอื่นใด ซึ่งแตกต่างจากค่านิยมของชาวตะวันตกบางส่วนในช่วง 4-5 ศตวรรษที่ผ่านมา ที่ถือเอาผิวสีเป็นเส้นแบ่งความเจริญและล้าหลัง
ความเป็นมนุษย์แบบจีนยุคใหม่เริ่มต้นเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตงทำการเปลี่ยนแปลงสังคมจีน จากสังคมกึ่งเมืองขึ้นกึ่งศักดินา มาเป็นสังคมนิยม สร้างประเทศจีนใหม่โดยถือเอาประขาชนเป็นศูนย์กลาง คนจีนนับร้อยๆล้านพากันตื่นตัวลงมือทำการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลายพันปีของจีนที่ประชาชนทั้งประเทศร่วมกันทุ่มเทแรงกายและสมองสร้างชีวิตความเป็นอยู่ให้กับตนเอง ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
การปลดปล่อยมวลชนและจัดตั้งมวลชน ด้วยความคิดเหมาเจ๋อตง คือจุดเริ่มของทุกสิ่งทุกอย่างที่เบ่งบานตามมาในภายหลัง หากไม่มีจุดเริ่มต้นนี้ ก็จะไม่มีจีนในวันนี้
ก็จะไม่มีจีนที่สามารถยืนซดหมัดกับสหรัฐอเมริกาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อดังเช่นที่เห็นกันอยู๋ในวันนี้
ไขคำจีน
促使 ชู่สื่อ กระตุ้น ทำให้เป็นไป