เวลา 10.00 น. วันที่ 16 ต.ค.68 ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดนนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิด กรณีนางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที่ได้โพสต์ข้อความและแสดงความไม่เห็นด้วยกับนายกัน จอมพลัง ในการเปิดเสียงผีให้ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองจาน อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ถือเป็นการข่มขวัญพลเรือนกัมพูชาอย่างร้ายแรงถึงขั้นเป็น “การทรมานทางจิตวิทยา” ขัดต่ออนุสัญญา CAT นั้น
กรณีดังกล่าว ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากต่อนางอังคณา ที่ไปเห็นอกเห็นใจพวกเขมร ทั้ง ๆ ที่คนไทยรวมทั้งทหารบาดเจ็บ ล้มตาย ขาขาด ทรัพย์สินเสียหายไปอย่างมากต่อการรุกรานของเขมร รวมทั้งเขมรละเมิด MOU43 มากกว่า 600 ครั้ง แต่นางอังคณากลับไม่แสดงออกเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติตามอำนาจหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา ที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแต่อย่างใด บางคนตำหนิถึงขั้นเสนอล่ารายชื่อถอดถอน ถือว่าไม่รักชาติหรือไม่ ซึ่งอาจถือได้ว่าไม่รักษาเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง สว. อันขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้ต่อมานางอังคณาจะออกมาพูดแก้เกี้ยวว่า มีเจตนาดีหวังเตือนสติในเรื่องน่ากังวลใจ หวั่นกระทบสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แถมยังชม “กัน จอมพลัง” ช่วยสร้างถนน-บังเกอร์ ย้ำ รักชาติไม่น้อยไปกว่าใครนั้น ดูเหมือนว่าสังคมไทยยังคงวิพากษ์วิจารณ์นางอังคณาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผลจากการกระทำของนางอังคณาดังกล่าว ปรากฎโดยชัดแจ้งว่าอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆช่วยกันกำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 219 โดยเฉพาะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม รวมทั้งไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งอีกด้วย
โดยที่นางอังคณา เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นสมาชิกวุฒิสภา มีหน้าที่เพียงกลั่นกรองกฎหมาย และเห็นชอบบุคคลในการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ไม่ได้มีหน้าที่ใดๆ ที่จะไปตัดสินว่าใครหรือการกระทำใดละเมิดสิทธิมนุษยชน เหมือนในสมัยที่ตนเคยเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อการแสดงออกของนางอังคณาจนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในสังคมไทย จึงอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ ป.ป.ช.มีอำนาจในการไต่สวนและชี้มูลความผิด องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนเรื่องดังกล่าวตามครรลองของกฎหมายต่อไป


