21 ตุลาคม 2568 นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าได้ยื่นหนังสือถึงนายนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตามที่ปรากฏในหน้าข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนของสำนักข่าวหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ว่า นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือเป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่า เบน สมิธ ซึ่งเคยมีประวัติในการปั่นหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย และปัจจุบันถูกกล่าวหาจาก สส. รังสิมันต์ โรม และสื่อมวลชนอิสระว่าเป็นตัวการใหญ่ที่เชื่อมโยงกับ เครือข่ายสแกมเมอร์ (Call Center) การฟอกเงิน และการนำ ทุนเทา เข้ามาลงทุนในประเทศไทยผ่านบริษัทพลังงาน และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในเครือข่าย “ทุนสีเทา” ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการเมือง ข้ามพรมแดนไทย–กัมพูชา โดยนายเบน สมิธ เคยเป็นที่ปรึกษาของเลขาธิการวุฒิสภากัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาของ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และมีกระแสข่าวว่ามีความใกล้ชิดกับนักการเมืองไทยหลายคน รวมถึงถูกกล่าวหาว่าเป็นนายหน้าขายเครื่องบินส่วนตัวให้กับ อดีตนายกฯ ทักษิณ และมีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองหลายท่าน นอกจากนี้ยังพบความร่วมมือกับ ยิม เลียก นักธุรกิจการเงินผู้ก่อตั้ง B.I.C. Bank ที่ถูกมองว่าเป็นประตูการเงินของเครือข่ายทุนการเมืองในกัมพูชาถือเป็นเครือข่ายที่ช่วยให้เบนจามินมีพื้นที่ในการดำเนินธุรกิจสีเทา ทั้งอสังหาริมทรัพย์ การเงิน และการขนส่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เปิดช่องทางฟอกเงินได้อย่างแนบเนียนอีกด้วย เรื่องนี้ส่งผลเสียหายต่อประชาชนคนไทยนับแสนล้านบาท ดับชีวิตและอนาคตมนุษยชาติอันมิอาจให้ปล่อยผ่านไปได้
ข้าพเจ้า เห็นว่า กรณีดังกล่าวข้างต้น มีลักษณะเป็นเครือข่ายขบวนการฟอกเงิน โดยเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้เกิดความกระจ่างแจ้งต่อสังคม โดยดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายเบน สมิธ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวทั้งทางแพ่งและทางอาญาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ หากต่อมามีการริบทรัพย์สินของนายเบน สมิธ และบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว เงินรางวัลที่จ่ายให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสที่ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด ข้าพเจ้ามีความประสงค์มอบให้กับผู้เสียหายเพื่อเยียวยาและบริจาคให้โรงเรียนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปโดยเร็วที่สุดและแจ้งผลให้ข้าพเจ้าทราบภายใน ๑๕ วันด้วย จะขอบคุณยิ่ง
ทั้งนี้งานสารบรรณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ได้ลงเลขที่รับหนังสือที่ 32745 เวลา 12.52 น. เป็นที่เรียบร้อย.





