วันพุธ, ตุลาคม 22, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมือง"วีระ" แฉยับ! รัฐบาล...

“วีระ” แฉยับ! รัฐบาล “โกหก” ปล่อยนักการเมืองไทย-ทหาร อุ้มแก๊งสแกมเมอร์

“สืบการเมือง” ล้วงลึกประเด็นร้อน กรณีแก๊งสแกมเมอร์อาละวาดหนักในกัมพูชา ซึ่งนานาชาติกำลังรุมกดดัน แต่ “วีระ สมความคิด” นักเคลื่อนไหวชื่อดัง ฟันธงว่าไม่ใช่แค่เรื่องของเพื่อนบ้าน เพราะมี “นักการเมืองไทย” ระดับรัฐมนตรี และ “บิ๊กทหาร” เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซ้ำยังแฉยับว่ารัฐบาลชุดนี้ “โกหก” ประชาชนซ้ำซาก ทั้งเรื่องการตัดไฟบ่อนชายแดน และการทวงคืนแผ่นดินที่ถูกรุกล้ำ

แฉ 7 นักการเมืองไทย-ทหาร เอี่ยวบ่อนสแกมเมอร์

คุณวีระ สมความคิด ยืนยันหนักแน่นว่า ธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนกาสิโน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากการ “หรี่ตา” หรือ “สนับสนุน” จากผู้มีอำนาจฝั่งไทย

“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง” คุณวีระกล่าว พร้อมระบุว่ามีข้อมูลนักการเมืองไทยอย่างน้อย 7 คน รวมถึงระดับรัฐมนตรี และนายทหารระดับสูง ที่พัวพันกับบ่อนกาสิโนชายแดน ทั้งที่ บ่อนช่องสายตะกู” (จ.บุรีรัมย์) และ บ่อนช่องทางท่าเส้น” (จ.ตราด) ซึ่งบางส่วนสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยในยุคที่ คสช. เรืองอำนาจ

คุณวีระยังมองว่า การที่เกาหลีใต้ออกมาปฏิเสธข่าวว่าไม่มีนักการเมืองไทยเกี่ยวข้อง อาจเป็นเพียง “มารยาททางการทูต” หรือการ “ขอร้องกัน” ระหว่างรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรง

จับโกหก” รัฐบาล: เรื่องตัดไฟแค่ “ละครลิง”

ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุด คือการ “จับโกหก” รัฐบาล กรณีการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ คุณวีระยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลโกหกประชาชนมาโดยตลอดว่าได้ตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตที่ส่งไปยังปอยเปตแล้ว

“ผมยืนยันว่ามันยังไม่ได้ตัด!” คุณวีระอ้างอิงคำสัมภาษณ์ของ นายศิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) ที่เพิ่งยอมรับในรายการ เจาะลึกทั่วไทย” ว่ายังไม่ได้ตัดจริง โดยอ้างว่าต้องรอการพิจารณาจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และอ้างเหตุผลด้าน “มนุษยธรรม” ว่าไฟฟ้าต้องใช้ในโรงพยาบาล

คุณวีระสวนกลับทันทีว่า “เขมรเขาก็มีไฟฟ้าของเขาเอง หรือซื้อจากเวียดนามก็ได้ ทำไมต้องอ้างมนุษยธรรม นี่มันเรื่องผลประโยชน์ชัดๆ”

เขาพุ่งเป้าไปที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในขณะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยตรง คุณวีระย้อนรอยว่าเคยแฉเรื่อง กฟภ. ที่แม่สายและแม่สอด ยังคงส่งไฟให้กลุ่มธุรกิจสีเทา แม้จะค้างค่าไฟนับปี (เนื่องจากบัญชีถูก ป.ป.ส. อายัด) ซึ่งต่างจากประชาชนทั่วไปที่ค้างไม่กี่วันก็โดนตัดไฟ

“ตอนนั้นคุณอนุทินก็เถียงผมว่าตัดแล้ว พอผมจี้เอาหลักฐานใบเสร็จมายัน ก็อ้าง สมช. วันนี้คุณอนุทินเป็นถึงนายกฯ คุมมหาดไทย ก็ยังไม่ตัดไฟที่ไปเขมร มันคือการโกหกทั้งสิ้น”

จับโกหก” กองทัพ: ปมคืนพื้นที่หนองจาน

คุณวีระยังแฉ “ขบวนการโกหก” ที่สอง เกี่ยวกับการทวงคืนพื้นที่ทับซ้อนที่ บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว (อ.โคกสูง จ.สระแก้ว) ที่มีชาวกัมพูชาเข้ามาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำ

เขากล่าวหาว่ากองทัพภาคที่ 1 ใช้ คุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นเครื่องมือในการปล่อยข่าวเท็จต่อประชาชน โดยให้ข้อมูลว่าทหารสามารถยึดคืนพื้นที่ได้แล้วที่หนองจาน 60 ไร่ (เหลือ 65 ไร่) และที่หนองหญ้าแก้ว 100 ไร่ (เหลือ 25 ไร่)

คุณวีระชี้พิรุธว่า “ตัวเลขที่อ้างว่าเหลือ 65 ไร่ กับ 25 ไร่ มันคือตัวเลขเดียวกับที่ผู้ว่าฯ และกองทัพแถลงเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ว่าเป็นพื้นที่ที่ ยังยึดคืนไม่ได้ … นี่มันหมายความว่าอะไร? หมายความว่าที่ผ่านมาคุณไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ใช้คุณบุ๋มมาพูดโกหก”

เขายังตั้งคำถามถึงการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ ที่มุ่งสกัดกั้นตนเองไม่ให้เข้าพื้นที่ แต่กลับปล่อยให้ชาวกัมพูชากว่าร้อยหลังคาเรือนยังคงอยู่อาศัยและใช้ไฟฟ้าของไทยได้ตามปกติ

ชำแหละประวัติศาสตร์: หยุดบิดเบือน MOU 43

ในช่วงท้าย คุณวีระได้ตอบโต้กรณีที่เจ้ากรมแผนที่ทหารระบุว่า หากยกเลิก MOU 2543 (MOU 43) หลักหมุดเขตแดนทั้งหมดจะเป็นโมฆะ

คุณวีระยืนยันว่า “เจ้ากรมแผนที่ทหารคนนี้พูดไม่จริง” เพราะหลักเขตแดนส่วนใหญ่ปักปันเสร็จสิ้นไปแล้วตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 2450 (ค.ศ. 1907) โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000

ปัญหาที่แท้จริงคือ ฝรั่งเศสได้ทำแผนที่ ภาคผนวก 1″ (Annex 1) ซึ่งเป็นมาตราส่วน 1:200,000 ขึ้นมาเองฝ่ายเดียวในปี 2451 (ค.ศ. 1908) เพื่อ “โกง” ดินแดนสันปันน้ำ เช่น ปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ไปเป็นของตน

คุณวีระอธิบายว่า สาเหตุที่รัชกาลที่ 5 ทรงไม่คัดค้านแผนที่ฉบับโกงนี้ (จนกลายเป็น “กฎหมายปิดปาก” ที่ทำให้ไทยแพ้คดีพระวิหาร) เพราะในขณะนั้น ไทยจำเป็นต้องนิ่งเฉยเพื่อแลกกับการที่ฝรั่งเศสยอมคืน จันทบุรี และ ตราด ให้สยาม

นอกจากนี้ เขายังชี้ว่าคดีปราสาทพระวิหารที่ไทยแพ้ ไม่ได้มีเพียงเหตุผลเรื่องกฎหมายปิดปาก แต่ยังมีการ “โกง” โดยสายลับฝรั่งเศสชื่อ นายมิเชล ลามาร์ส (Michel Lamare) ที่เข้ามาติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อล้วงความลับไปให้ฝรั่งเศสสู้คดี (ซึ่งเป็นคดีดังในอดีตที่ พล.ต.ท. ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ และ นายประสงค์ สุ่นศิริ อดีตผู้นำข่าวกรองรู้ดี)

“สิ่งที่เราเจ็บปวดคือ พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เราเสียให้ฝรั่งเศส ไม่ใช่เขมร” คุณวีระกล่าวทิ้งท้าย “แต่พอฝรั่งเศสให้เอกราชเขมร มันกลับยกดินแดน 3 จังหวัดนี้ไปแถมให้เขมร… น่าเสียดายที่เด็กไทยรุ่นใหม่ไม่รู้ประวัติศาสตร์เหล่านี้ เพราะรัฐบาลเหี้ยๆ ที่ผ่านมามันไปยกเลิกการเรียนประวัติศาสตร์”

#สืบจากข่าว รายงาน

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

“เรืองไกร” ชำแหละยับ! ชี้เพื่อไทย “พัง” เพราะ “รวมศูนย์อำนาจชินวัตร”

“...ไม่ใช่แค่ "คลิปอังเคิล" ที่กำลังฆ่าเพื่อไทย! เบื้องหลังอาการ "เลือดไหลไม่หยุด" พ่ายซ่อม 2 สนามรวด และ สส. ทยอยทิ้งรัง... "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อดีตคนในบ้านเก่า มองทะลุปัญหา ชี้ว่านั่นเป็นเพียง "ผลเสีย" ปลายเหตุ แต่ "จุดตาย" ที่แท้จริง หรือ "มะเร็งร้าย" ที่กัดกินพรรคจน "ระส่ำหนัก" มันหยั่งรากลึกและน่ากลัวกว่าที่คิด......” https://youtu.be/BfUIK5hBm_s ผ่าอาณาจักรเพื่อไทย "รวมศูนย์" คือจุดตาย "เรื่องการบริหารเรื่องรวมศูนย์เนี่ย น่าจะเป็นหลักมากกว่า" เรืองไกร เริ่มต้นวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมา เขาชี้ว่าจุดอ่อนของเพื่อไทยในปัจจุบันคือการบริหารที่รวมศูนย์อำนาจไว้ในมือของตระกูลชินวัตรเป็นหลัก ส่วน "คลิปอื้อฉาว" ที่เกิดขึ้นนั้น เรืองไกร มองว่าเป็น "ผลเสีย" ที่ตามมา ไม่ใช่...

“เลือดสีฟ้า” มันข้น!

“...การกลับมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กำลังสั่นสะเทือนภูมิทัศน์การเมืองไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่เคยเป็นฐานเสียงหลัก ท่ามกลางกระแสวิเคราะห์ว่านี่อาจเป็น "แพลนบี" ของค่ายอนุรักษ์นิยม และการคัมแบ็กครั้งนี้จะสร้างความยากลำบากให้กับ "ภูมิใจไทย" ที่กำลังมาแรงได้มากน้อยเพียงใด...” https://youtu.be/GdtaFC6HU6c "สืบการเมือง" สนทนากับ "สาธิต วงศ์หนองเตย" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ด้านยุทธศาสตร์การเมือง เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งสำคัญ และทิศทางของพรรคสีฟ้าในวันที่ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง "เลือดสีฟ้า" สู่การคัมแบ็กในยามวิกฤต คุณสาธิต เริ่มต้นด้วยการย้ำถึงจุดยืนของคุณอภิสิทธิ์ว่า "กรีดเลือดยังไงก็เป็นสีฟ้า" หลังเว้นวรรคทางการเมืองไปนานกว่า 6 ปี การกลับมาครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ประกอบกับกระแสเรียกร้องในสังคม (เช่น บทวิเคราะห์ของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ที่เสนอว่า "คืนพรรคประชาธิปัตย์ให้อภิสิทธิ์") และเสียงสนับสนุนจากคนในพรรค "คุณอภิสิทธิ์มีใจอยู่แล้ว ท่านก็ตัดสินใจจะกลับมา พร้อมกับที่คนในพรรคหลายคนก็โทรไปพูดคุยกับท่าน... แนวความคิดของคุณอภิสิทธิ์ถ้ากลับมารอบนี้...

แก่นแท้ความสำเร็จ “จีนยุคใหม่”“ปลดปล่อยมวลชน” “จัดตั้งมวลชน”“รวมศูนย์กำลังทำงานใหญ่”

“….แก่นแท้ของความสำเร็จของจีนยุคใหม่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่พลิกตัวเองจากสังคมล้าหลังเป็นสังคมก้าวหน้า ด้วยแนวคิดชี้นำที่ว่า"มวลชนคือวีรชนที่แท้จริง" มุ่งสร้างระบบระบอบที่เอื้อต่อการรวมพลังมวลชนทำงานใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมาเจ๋อตง ได้ทำการปลดปล่อยชาวนาชาวไร่ให้พ้นจากแอกเจ้าที่ดิน และอิทธิพลของมหาอำนาจตะวันตก เติ้งเสี่ยวผิงได้นำประชาชนจีนลุกขึ้นสร้างความทันสมัยให้ประเทศจีน ด้วยการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดกว้าง ปลดปล่อยประชาชนชาวจีนให้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่ตนเอง แล้วนำพาคนจีนที่เหลืออยู่ให้มั่งคั่งตามไปด้วย เพียงสองสามทศวรรษให้หลังเท่านั้น จีนก็ผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ สามารถทำให้คนจีน"รวยขึ้นมาได้"ตามเป้าหมาย มาถึงจีนวันนี้ สีจิ้นผิงได้ติดอาวุธทางความคิดที่มุ่งเน้นวิทยาการสมัยใหม่ ในการร่วมกันสร้างสิ่งใหม่ๆ นั่นคือ ประเทศจีน"เข้มแข็งขึ้นมาแล้ว" จาก "ลุกขึ้นยืน" เป็น"มั่งคั่งขึ้นมา" จนถึง"เข้มแข็งขึ้นมา" จีนใช้เวลาเพียง75ปี ก็ทำได้สำเร็จด้วย"ยาวิเศษ - แนวทางมวลชน" นี้ ดำเนินการ"ปลดปล่อยมวลชน จัดตั้งมวลชน" ในทุกกาลสมัย ในที่สุดก็จะไปลงเอยที่ผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งกระบวนการ" เริ่มจากมวลชน กลับไปสู่มวลชน" นี้ เมื่อขยายไปสู่ระดับทั้งโลก ก็ย่อมสามารถจุดประกายแห่งความหวังได้เป็นอย่างดี….” https://youtu.be/36Dru_6z16w ปลดปล่อยมวลชน จัดตั้งมวลชน...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.