“สืบการเมือง” ล้วงลึกประเด็นร้อน กรณีแก๊งสแกมเมอร์อาละวาดหนักในกัมพูชา ซึ่งนานาชาติกำลังรุมกดดัน แต่ “วีระ สมความคิด” นักเคลื่อนไหวชื่อดัง ฟันธงว่าไม่ใช่แค่เรื่องของเพื่อนบ้าน เพราะมี “นักการเมืองไทย” ระดับรัฐมนตรี และ “บิ๊กทหาร” เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซ้ำยังแฉยับว่ารัฐบาลชุดนี้ “โกหก” ประชาชนซ้ำซาก ทั้งเรื่องการตัดไฟบ่อนชายแดน และการทวงคืนแผ่นดินที่ถูกรุกล้ำ
แฉ 7 นักการเมืองไทย-ทหาร เอี่ยวบ่อนสแกมเมอร์
คุณวีระ สมความคิด ยืนยันหนักแน่นว่า ธุรกิจสีเทาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบ่อนกาสิโน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากการ “หรี่ตา” หรือ “สนับสนุน” จากผู้มีอำนาจฝั่งไทย
“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง” คุณวีระกล่าว พร้อมระบุว่ามีข้อมูลนักการเมืองไทยอย่างน้อย 7 คน รวมถึงระดับรัฐมนตรี และนายทหารระดับสูง ที่พัวพันกับบ่อนกาสิโนชายแดน ทั้งที่ “บ่อนช่องสายตะกู” (จ.บุรีรัมย์) และ “บ่อนช่องทางท่าเส้น” (จ.ตราด) ซึ่งบางส่วนสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยในยุคที่ คสช. เรืองอำนาจ
คุณวีระยังมองว่า การที่เกาหลีใต้ออกมาปฏิเสธข่าวว่าไม่มีนักการเมืองไทยเกี่ยวข้อง อาจเป็นเพียง “มารยาททางการทูต” หรือการ “ขอร้องกัน” ระหว่างรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรง
“จับโกหก” รัฐบาล: เรื่องตัดไฟแค่ “ละครลิง”
ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุด คือการ “จับโกหก” รัฐบาล กรณีการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ คุณวีระยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลโกหกประชาชนมาโดยตลอดว่าได้ตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตที่ส่งไปยังปอยเปตแล้ว
“ผมยืนยันว่ามันยังไม่ได้ตัด!” คุณวีระอ้างอิงคำสัมภาษณ์ของ นายศิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) ที่เพิ่งยอมรับในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย” ว่ายังไม่ได้ตัดจริง โดยอ้างว่าต้องรอการพิจารณาจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และอ้างเหตุผลด้าน “มนุษยธรรม” ว่าไฟฟ้าต้องใช้ในโรงพยาบาล
คุณวีระสวนกลับทันทีว่า “เขมรเขาก็มีไฟฟ้าของเขาเอง หรือซื้อจากเวียดนามก็ได้ ทำไมต้องอ้างมนุษยธรรม นี่มันเรื่องผลประโยชน์ชัดๆ”
เขาพุ่งเป้าไปที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในขณะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยตรง คุณวีระย้อนรอยว่าเคยแฉเรื่อง กฟภ. ที่แม่สายและแม่สอด ยังคงส่งไฟให้กลุ่มธุรกิจสีเทา แม้จะค้างค่าไฟนับปี (เนื่องจากบัญชีถูก ป.ป.ส. อายัด) ซึ่งต่างจากประชาชนทั่วไปที่ค้างไม่กี่วันก็โดนตัดไฟ
“ตอนนั้นคุณอนุทินก็เถียงผมว่าตัดแล้ว พอผมจี้เอาหลักฐานใบเสร็จมายัน ก็อ้าง สมช. วันนี้คุณอนุทินเป็นถึงนายกฯ คุมมหาดไทย ก็ยังไม่ตัดไฟที่ไปเขมร มันคือการโกหกทั้งสิ้น”
“จับโกหก” กองทัพ: ปมคืนพื้นที่หนองจาน
คุณวีระยังแฉ “ขบวนการโกหก” ที่สอง เกี่ยวกับการทวงคืนพื้นที่ทับซ้อนที่ บ้านหนองจาน และ บ้านหนองหญ้าแก้ว (อ.โคกสูง จ.สระแก้ว) ที่มีชาวกัมพูชาเข้ามาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำ
เขากล่าวหาว่ากองทัพภาคที่ 1 ใช้ คุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นเครื่องมือในการปล่อยข่าวเท็จต่อประชาชน โดยให้ข้อมูลว่าทหารสามารถยึดคืนพื้นที่ได้แล้วที่หนองจาน 60 ไร่ (เหลือ 65 ไร่) และที่หนองหญ้าแก้ว 100 ไร่ (เหลือ 25 ไร่)
คุณวีระชี้พิรุธว่า “ตัวเลขที่อ้างว่าเหลือ 65 ไร่ กับ 25 ไร่ มันคือตัวเลขเดียวกับที่ผู้ว่าฯ และกองทัพแถลงเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ว่าเป็นพื้นที่ที่ ยังยึดคืนไม่ได้ … นี่มันหมายความว่าอะไร? หมายความว่าที่ผ่านมาคุณไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ใช้คุณบุ๋มมาพูดโกหก”
เขายังตั้งคำถามถึงการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ ที่มุ่งสกัดกั้นตนเองไม่ให้เข้าพื้นที่ แต่กลับปล่อยให้ชาวกัมพูชากว่าร้อยหลังคาเรือนยังคงอยู่อาศัยและใช้ไฟฟ้าของไทยได้ตามปกติ
ชำแหละประวัติศาสตร์: หยุดบิดเบือน MOU 43
ในช่วงท้าย คุณวีระได้ตอบโต้กรณีที่เจ้ากรมแผนที่ทหารระบุว่า หากยกเลิก MOU 2543 (MOU 43) หลักหมุดเขตแดนทั้งหมดจะเป็นโมฆะ
คุณวีระยืนยันว่า “เจ้ากรมแผนที่ทหารคนนี้พูดไม่จริง” เพราะหลักเขตแดนส่วนใหญ่ปักปันเสร็จสิ้นไปแล้วตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 2450 (ค.ศ. 1907) โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000
ปัญหาที่แท้จริงคือ ฝรั่งเศสได้ทำแผนที่ “ภาคผนวก 1″ (Annex 1) ซึ่งเป็นมาตราส่วน 1:200,000 ขึ้นมาเองฝ่ายเดียวในปี 2451 (ค.ศ. 1908) เพื่อ “โกง” ดินแดนสันปันน้ำ เช่น ปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ไปเป็นของตน
คุณวีระอธิบายว่า สาเหตุที่รัชกาลที่ 5 ทรงไม่คัดค้านแผนที่ฉบับโกงนี้ (จนกลายเป็น “กฎหมายปิดปาก” ที่ทำให้ไทยแพ้คดีพระวิหาร) เพราะในขณะนั้น ไทยจำเป็นต้องนิ่งเฉยเพื่อแลกกับการที่ฝรั่งเศสยอมคืน จันทบุรี และ ตราด ให้สยาม
นอกจากนี้ เขายังชี้ว่าคดีปราสาทพระวิหารที่ไทยแพ้ ไม่ได้มีเพียงเหตุผลเรื่องกฎหมายปิดปาก แต่ยังมีการ “โกง” โดยสายลับฝรั่งเศสชื่อ นายมิเชล ลามาร์ส (Michel Lamare) ที่เข้ามาติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อล้วงความลับไปให้ฝรั่งเศสสู้คดี (ซึ่งเป็นคดีดังในอดีตที่ พล.ต.ท. ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ และ นายประสงค์ สุ่นศิริ อดีตผู้นำข่าวกรองรู้ดี)
“สิ่งที่เราเจ็บปวดคือ พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เราเสียให้ฝรั่งเศส ไม่ใช่เขมร” คุณวีระกล่าวทิ้งท้าย “แต่พอฝรั่งเศสให้เอกราชเขมร มันกลับยกดินแดน 3 จังหวัดนี้ไปแถมให้เขมร… น่าเสียดายที่เด็กไทยรุ่นใหม่ไม่รู้ประวัติศาสตร์เหล่านี้ เพราะรัฐบาลเหี้ยๆ ที่ผ่านมามันไปยกเลิกการเรียนประวัติศาสตร์”
#สืบจากข่าว รายงาน